*ไอเอสจับตัวประกันอียิปต์และสังหารโหดชาวอิรัก/พายุหิมะในสหรัฐสร้างความเสียหายหนัก/เกาหลีใต้ปรับครม.*

18 กุมภาพันธ์ 2558, 07:30น.


กองทัพรัฐบาลยูเครนและกบฏแบ่งแยกดินแดนทางภูมิภาคตะวันออกต่างยังไม่ยอมถอนอาวุธหนักออกจากเขตแนวหน้าทางภาคตะวันออกยูเครนตามกำหนดเวลาวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ตามที่กำหนดไว้ในข้อตกลงหยุดยิงที่ผู้นำรัสเซีย ยูเครน ฝรั่งเศส เยอรมนี ทำไว้ เพราะต่างก็ยืนยันจะให้อีกฝ่ายถอนอาวุธหนักก่อน



ส่วนความเคลื่อนไหวในการต่อต้านกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส ประธานาธิบดีอับเดล ฟัตตาห์ อัลซีซีแห่งอียิปต์ เรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ลงมติสนับสนุนให้นานาชาติเข้าแทรกแซงทางทหารในลิเบีย เพราะไม่มีทางเลือกอื่น จากที่ผ่านมาผู้นำอียิปต์ต้องการให้ประชาคมโลกเข้าแทรกแซงกิจการภายในของลิเบีย เพราะตกอยู่ในความขัดแย้งมาตั้งแต่พันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี พ้นจากอำนาจเมื่อปี 2554 และทำให้กลุ่มไอเอสเข้มแข็งขึ้น



ด้านนายฮัสซัน นัสรัลเลาะห์ ผู้นำกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ที่เป็นกลุ่มเคลื่อนไหวของเลบานอน ยอมรับเป็นครั้งแรกว่ากลุ่มให้การสนับสนุนกองทัพอิรักในการสู้รบกับกลุ่มไอเอสในอิรัก ส่วนในซีเรียกลุ่มก็อยู่ฝ่ายเดียวกันกับกองทัพของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ในการต่อสู้กับไอเอสและกลุ่มอัลนุสราเช่นกัน ซึ่งเขากล่าวว่า ความร่วมมือนี้เป็นการก้าวข้ามความขัดแย้งในอดีตที่กลุ่มเคยปะทะกับกองกำลังชาวเคิร์ด และกองทัพอิรัก นอกจากนี้แกนนำเฮสบอลเลาะห์ ยังประณามการกระทำของกลุ่มไอเอส ว่าเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจและถือเป็นอาชญากรรมที่เลวร้ายที่สุด และยังมีแนวคิดที่คล้ายกับกลุ่มก่อร้ายอัลนุสรา ในซีเรีย ต่างกันแค่มีผู้นำคนละคนเท่านั้น ซึ่งก่อนหน้านี้นักรบไอเอสเคยลอบสังหารหัวหน้า และครอบครัวของกลุ่มอัลนุสรา เช่นกัน โดยนายฮารีรีระบุว่ามุสลิมทั้งสายสุหนี่และชีอะห์จะต้องร่วมมือกันเพื่อตอบโต้การกระทำอันเลวร้ายของกลุ่มไอเอส เพื่อชาติและศาสนาอิสลาม



อย่างไรก็ตาม ล่าสุดกลุ่มไอเอสยังก่อเหตุสังหารชาวอิรักด้วยการเผาทั้งเป็น 45 คนที่เมืองอัล-แบกแดดี ทางฝั่งตะวันตกของประเทศ โดยผู้ที่ถูกสังหารส่วนหนึ่งเป็นสมาชิกกองกำลังความมั่นคงอิรัก กับยังมีคนงานชาวอียิปต์ที่ทำงานอยู่ในฟาร์มปศุสัตว์ในลิเบียถูกลักพาตัวไปอีก 35 คน



ส่วนที่อัฟกานิสถาน เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายโดยคนร้าย 4 คน เพื่อโจมตีสถานีตำรวจแห่งหนึ่งในเมืองปัล-ไอ-อาลาม เมืองเอกของจังหวัดโลการ์ ห่างจากกรุงคาบูล ไปทางตะวันออกประมาณ 80 กิโลเมตร ส่งผลให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตอย่างน้อย 10 นาย



บริษัทพลานาไลติคส์ ซึ่งทำวิจัยด้านสภาพอากาศเพื่อธุรกิจ รายงานพายุหิมะในสหรัฐอาจสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจราว 1,000-2,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ โดยเฉพาะที่เมืองบอสตัน ซึ่งในช่วง 2 สัปดาห์มานี้มีหิมะหนาเกือบ 5 ฟุต แต่ความเสียหายนี้ยังน้อยกว่าปรากฏการณ์โพลาร์วอร์เทกซ์ หรือลมวนขั้วโลก เมื่อปี 2557 ที่สร้างความเสียหายให้เศรษฐกิจสหรัฐมากถึง 15,000 ล้านดอลลาร์



ประธานาธิบดีปาร์ก กึน-เฮ แห่งเกาหลีใต้ ประกาศปรับคณะรัฐมนตรีครั้งสำคัญ โดยนายฮอง ยอง เปียว ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีเพื่อการรวมชาติคนใหม่ ที่กำกับดูแลความสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือ นอกจากนี้ มีการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีอีก 2 ตำแหน่ง และหัวหน้าหน่วยงานกำกับดูแลด้านการคลัง ซึ่งทั้ง 4 ตำแหน่ง เป็นเพียงแค่การแต่งตั้ง ยังไม่ได้รับการอนุญาตจากสภานิติบัญญัติเกาหลีใต้



ทางการชิลี มีการแต่งตั้งนายหลุยส์ โตเลโด อัยการชิลี ให้เป็นหัวหน้าทีมสอบสวน เพื่อตรวจสอบว่านายเซบาสเตียน ดาวาลอส ลูกชายของประธานาธิบดีมิเชลส์ บาเชเลต ผู้นำชิลี ใช้สิทธิพิเศษในการเข้าถึงเงินกู้ของธนาคารแห่งหนึ่งหรือไม่ โดยจะตรวจสอบว่านายดาวาลอส และภรรยาของเขาได้รับประโยชน์จากการใช้สิทธิพิเศษในการกู้เงินจำนวน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากธนาคารบังโก เดอ ชิลี จากนั้น ก็ขายต่อเพื่อทำกำไรได้เงินประมาณ 15 ล้านดอลลาร์



มีผู้เสียชีวิตจากเหตุไฟฟ้าดูดไม่ต่ำกว่า 18 ราย ในเทศกาลงานคาร์นิวัลที่กรุงปอร์โตแปรงซ์ของเฮติโดยผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า มีผู้ที่อยู่ในขบวนพาเหรด ใช้ไม้เขี่ยสายไฟฟ้าเพื่อให้ขบวนพาเหรดลอดผ่านไปอย่างสะดวก แต่ทำให้เกิดไฟฟ้าดูด มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายคน



ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ปิดตลาดเมื่อคืนนี้ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย โดยดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 28.23 จุด หรือร้อยละ 0.16 ปิดที่ 18,047.58 จุด



ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 3.35 จุด หรือร้อยละ 0.16 ปิดที่ 2,100.34 จุด



ดัชนีแนสแด็กเพิ่มขึ้น 5.43 จุด หรือร้อยละ 0.11 ปิดที่ 4,899.27 จุด



*-*

ข่าวทั้งหมด

X