เอเอฟพี รายงานผลการศึกษาโดยบริษัทไฟเซอร์ ผู้ผลิตวัคซีน ร่วมกับสถาบันไกเซอร์ เพอร์เมเนนเต เอ็นจีโอด้านสาธารณสุขของสหรัฐฯ สำรวจสุขภาพของประชาชน 3.4 ล้านคนในรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งรับวัคซีนไฟเซอร์ครบโดสแล้ว ศึกษาระหว่างเดือนธันวาคมปีก่อนจนถึงเดือนสิงหาคมปีนี้ ทีมวิจัย พบว่า
-การรับวัคซีนไฟเซอร์ครบสองเข็ม ช่วยลดการป่วยหนักจากโรคโควิด-19 อย่างน้อย 6 เดือน
-คนไข้จะไม่ติดเชื้อโควิด-19 ร้อยละ 73
-ลดการป่วยจนถึงขั้นนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลในอัตราร้อยละ 90
สำหรับเชื้อไวรัสเดลตา ทีมวิจัย พบว่า ประสิทธิภาพของวัคซีนไฟเซอร์ในการต้านเชื้อไวรัสเดลตาจะค่อยๆลดลงร้อยละ 40 หลังรับวัคซีนแล้ว 5 เดือน แต่ยังคงมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันเชื้อไวรัสสายพันธุ์อื่นๆทั้งหมด การที่วัคซีนค่อยๆลดประสิทธิภาพ หลังระยะเวลาผ่านไป 5 เดือน เป็นเรื่องปกติ ไม่ได้หมายว่า เชื้อไวรัสซับซ้อนมากขึ้นจนถึงขนาดหลบเลี่ยงประสิทธิภาพการป้องกันของวัคซีน
การวิจัยครั้งนี้ ชี้ว่า การฉีดวัคซีนบูสเตอร์ หรือเข็มที่ 3 เป็นเรื่องจำเป็น เพื่อรักษาระดับภูมิคุ้มกันโรคในร่างกายให้อยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง หลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ ฝรั่งเศสและอิสราเอล จัดโครงการฉีดวัคซีนบูสเตอร์แล้ว
ขณะที่ องค์การอนามัยโลก เสนอแนะให้ทั่วโลกหยุดพักโครงการวัคซีนบูสเตอร์ไปจนถึงสิ้นปีนี้ เพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านวัคซีนระหว่างประเทศร่ำรวยกับประเทศยากจน เนื่องจาก ประชาชนในบางประเทศในทวีปแอฟริกายังไม่ได้ฉีดวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว
#วัคซีนไฟเซอร์
#ฉีดครบโดสลดการป่วยหนัก