สธ.แจงยะลาพบผู้ติดโควิดเพิ่มขึ้น แต่ไม่ใช่คลัสเตอร์ใหญ่ ระดมทุกมาตรการเพื่อควบคุมโรค

          กรณีที่จังหวัดยะลา พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น 738 คน กระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงว่าเป็นการติดเชื้อในบ้านและชุมชน เร่งสร้างความตระหนักในเรื่องมาตรการป้องกันตนเองสูงสุดตลอดเวลา

          นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในวันนี้  (2 ต.ค.) ประเทศไทยมีผู้ป่วยโควิดรายใหม่ 11,375 คนและเสียชีวิต 87 ราย โดยจังหวัดยะลาพบผู้ติดเชื้อรายใหม่มากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ คือ 738 คนพบว่าเป็นลักษณะการติดเชื้อในบ้านและชุมชน ไม่ได้มีลักษณะเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ ปัจจัยเสี่ยงสำคัญคือการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มคน เช่น งานแต่งงาน งานเลี้ยงในชุมชน เป็นต้น ซึ่งโรงพยาบาลในพื้นที่มีการเตรียมความพร้อมรองรับผู้ป่วยได้เพียงพอ นอกจากนี้จังหวัดยะลา มีอัตราเสียชีวิตร้อยละ 0.74 น้อยกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ

          สำหรับแนวทางการลดผู้ติดเชื้อ จะเฝ้าระวังการเสียชีวิตของกลุ่มเสี่ยงอย่างต่อเนื่องและคัดกรองการติดเชื้อในชุมชน รวมถึงย้ำมาตรการ DMHT ซึ่งผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่นและคนทำงาน จะมีการตั้งศูนย์สู้ภัยโควิดในที่ทำงาน เช่น สำนักงาน โรงงาน สถานประกอบการ ร้านอาหาร และตลาด โดยเน้นมาตรการป้องกันตนเองขั้นสูงสุด (Universal Prevention) และการทำงานที่บ้าน (Work From Home) การตรวจพนักงานด้วยชุดตรวจ ATK ประมาณร้อยละ 10 ทุกสัปดาห์ เพื่อเฝ้าระวังและแยกกักผู้ติดเชื้อโดยเร็ว ตัดวงจรการระบาด และป้องกันการนำเชื้อกลับไปแพร่ที่บ้าน

          นอกจากนี้ จะเร่งรณรงค์ฉีดวัคซีนให้มีความครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งภาพรวมยะลา ฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 1 แล้วร้อยละ 47 ส่วนผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ฉีดวัคซีนแล้วกว่าร้อยละ 60 โดย อ.เมืองยะลา และ อ.เบตง ได้รับวัคซีนแล้วกว่าร้อยละ 70 แต่ยังต้องเร่งรัดการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 และเข้มมาตรการร้านอาหารต้องฉีดวัคซีนพนักงานให้ครบ 2 เข็ม โดยจะระดมสรรพกำลังทั้งฝ่ายสาธารณสุข ฝ่ายปกครอง และประชาชนในการสื่อสารทำความเข้าใจเรื่องการฉีดวัคซีน ซึ่งมีประสิทธิผลในการลดการป่วยรุนแรงและเสียชีวิต โดยการฉีดด้วยสูตรไขว้ซิโนแวคตามด้วยแอสตร้าเซนเนก้าห่างกัน 3 สัปดาห์ ที่กำลังใช้อยู่ในขณะนี้ คาดว่าจะช่วยให้ฉีดเข็ม 2 ได้ครอบคลุมเร็วขึ้น และในวันที่ 4 ตุลาคมนี้ จะเริ่มฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้เด็กนักเรียนอีกด้วย

....

#ยะลา

#โควิด19

#วัคซีนโควิด