นายวชิร คูณทวีเทพ ผู้อำนวยการสถาบันยุทธศาสตร์การค้า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมปี 2564 ซึ่งมีพื้นที่ประสบน้ำท่วม 31 จังหวัด คาดว่าจะสร้างความเสียหายประมาณ 15,036 ล้านบาท โดยกว่า 7,000 ล้านบาทเป็นความเสียหายด้านเกษตร ส่งผลกระทบต่อจีดีพีทั้งปีลดลงร้อยละ 0.1-0.2 หรือในไตรมาส 4 จีดีพีจะลดลงร้อยละ 0.3-0.5 แต่สถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้มีความรุนแรง และสร้างความเสียหายน้อยกว่าน้ำท่วมในปี 2554 ทั้งคาดว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะลดลง และกลับสู่ภาวะปกติเฉลี่ย 9 วัน
ในส่วนของข้อเสนอแนะที่ต้องการให้รัฐบาลดำเนินการ ได้แก่
อันดับ 1 ช่วยเหลือเกษตรกร ผู้ประกอบการและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม เช่น การชดเชยผลผลิตทางการเกษตร หรือการสนับสนุนเงินทุนเพื่อนำมาซ่อมแซมกิจการที่ได้รับความเสียหาย
อันดับ 2 เงินชดเชยน้ำท่วม โดยเฉพาะพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมาก
อันดับ 3 มีมาตรการช่วยเหลือที่เป็นรูปธรรม และควรแจ้งเตือนภัยให้เร็วมากกว่านี้
นอกจากนี้ยังควรมีมาตรการทางการเงินแก่ผู้ประกอบการ เช่น ปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ เงื่อนไขในการกู้ง่าย รวมทั้งสร้างแหล่งกักเก็บน้ำและฝายชะลอน้ำ และส่งเสริมให้มีศูนย์บรรเทาช่วยเหลือภายในพื้นที่
ด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ยังคงอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ไว้ที่ร้อยละ 1 หากต้องการให้เศรษฐกิจไทยในปีหน้าเติบโตถึงร้อยละ 6-8 รัฐต้องมีการออกมาตรการทั้งเปิดประเทศ และคลายล็อกดาวน์ให้นักท่องเที่ยวเข้ามา และดึงการลงทุนจากต่างประเทศ ทั้งต้องประคองค่าเงินบาทให้อ่อนค่า เพื่อส่งเสริมภาคการส่งออก ควบคุมสถานการณ์โควิด-19 พร้อมไปกับการออกมาตรการต่างๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และการจ้างงานให้มากขึ้น
....
#มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
#น้ำท่วม
#จีดีพี