ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า หลังปิดประเทศมาหลายเดือน เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลายประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ประเทศไทย อินโดนีเซีย มาเลเซียและเวียดนามจะเลิกใช้นโยบายควบคุมโรคแบบเข้มงวด (zero-Covid policies) มาใช้นโยบายรณรงค์ให้ประชาชนปรับตัวอยู่ร่วมกับโรคโควิด-19 (living with the virus) เตรียมเปิดประเทศ เปิดด่านชายแดน แหล่งท่องเที่ยวและสถานที่สาธารณะต่างๆของประเทศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าชมในเดือนหน้า เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศ
แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคน รวมทั้งนายเหยินจง ฮวง (Yanzhong Huang) นักวิจัยจากสภาวิเทศสัมพันธ์ (CFR) เอ็นจีโอของสหรัฐฯ และนายอภิเษก ริมัล (Abhishek Rimal) ผู้ประสานงานด้านสาธารณสุขฉุกเฉินระดับภูมิภาคของสมาพันธ์กาชาดสากล (International Federation of Red Cross) เตือนว่าอาจจะเร็วเกินไปทั้ง 4 ประเทศจะเปิดประเทศในช่วงนี้ โดยยกตัวอย่างหลายประเทศในยุโรป เช่น สหราชอาณาจักร และแคนาดา เปิดประเทศในช่วงที่อัตรากระจายวัคซีนในประเทศสูงร้อยละ 65 และร้อยละ 70 ตามลำดับ แต่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังมีการกระจายวัคซีนในอัตราต่ำ ซึ่งอาจทำให้เกิดการระบาดใหญ่ระลอกใหม่
อีกด้านหนึ่ง การปิดประเทศนานๆ ทำให้คนจำนวนมากในธุรกิจท่องเที่ยวเสียโอกาสในการทำงาน ขาดรายได้เพื่อเลี้ยงครอบครัว เช่น กรณีของนายฌอง การิโต เจ้าของโรงเรียนสอนดำน้ำที่จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่าผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมส่วนใหญ่อยากให้ภาครัฐเปิดประเทศโดยเร็ว และหากภาครัฐไม่เข้ามาช่วยเยียวยา และยังไม่มีแผนการเปิดประเทศ ธุรกิจส่วนใหญ่จะต้องปิดกิจการ
...
#แผนเปิดประเทศ
#อยู่ร่วมกับโควิด19