การประชุมสมัชชาใหญ่ประจำปีที่สำนักงานใหญ่ของสหประชาชาติ(ยูเอ็น)ในนครนิวยอร์ก สหรัฐฯจะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้ไปจนถึงวันที่ 27 กันยายน 2564 มีประธานาธิบดี 72 คนและนายกรัฐมนตรี 30 คนเดินทางไปร่วมประชุม
ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า นางลินดา โธมัส-กรีนฟีลด์ ผู้แทนถาวรของสหรัฐฯประจำยูเอ็น แสดงความเป็นกังวลว่า ปัญหาลักลั่นเรื่องวัคซีน เพราะยังมีผู้นำบางคน เช่น ประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารู ของบราซิล ที่ไปร่วมประชุมโดยไม่ฉีดวัคซีน หรือกรณีคณะผู้แทนรัสเซียรับวัคซีน Sputnik V ของรัสเซีย เพราะเป็นวัคซีนที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค(CDC)ของสหรัฐฯไม่ให้การรับรอง อาจจะส่งผลให้การประชุมยูเอ็นในปีนี้ กลับกลายมาเป็นศูนย์การแพร่ระบาดใหญ่ หรือ superspreader ในสหรัฐฯอีกระลอกหนึ่ง
นางกรีนฟีลด์ ขอให้ผู้นำประเทศที่ไม่สามารถทำตามมาตรการควบคุมโรคของรัฐนิวยอร์ก เช่น การแสดงผลการตรวจ-รับวัคซีนก่อนเข้าห้องประชุม ให้งดเดินทางไปยังนครนิวยอร์กและประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ที่บ้าน เพื่อลดการแพร่ระบาด พร้อมแนะนำ CDC ออกมาตรการบังคับให้ผู้เข้าร่วมประชุมสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาขณะอยู่ในห้องประชุมยูเอ็น แสดงใบรับผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นลบ และขอให้ CDC ออกระเบียบปฏิบัติให้ผู้นำประเทศต่างๆแสดงหลักฐานการรับวัคซีนด้วย
นอกจากนี้ ปัญหาที่น่ากังวลครั้งนี้ยังย้ำเตือนให้ทุกฝ่ายตระหนักกว่า ขณะที่สหรัฐฯและประเทศหลักๆของกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)ผลักดันโครงการวัคซีนให้คืบหน้า ประชากรส่วนใหญ่รับวัคซีนเข็มที่ 3 แต่ประเทศยากจนจำนวนมาก ขาดแคลนไม่สามารถจัดซื้อวัคซีนมาฉีดให้กับประชาชน ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกเมื่อสัปดาห์ก่อน ระบุว่า มีการฉีดวัคซีนกว่า 5.7 พันล้านโดสทั่วโลก แต่ร้อยละ 73 ของวัคซีนดังกล่าวฉีดในประเทศร่ำรวย 10 ประเทศ
...
#สหรัฐฯ
#คลัสเตอร์ประชุมยูเอ็น