นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ชี้แจงข้อเท็จจริงทางคดีโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) กรณีที่มีบริษัทเอกชนรายหนึ่งยื่นฟ้องรฟม.ว่า ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบกลาง นัดหมายพิจารณาพยานเอกสารในช่วงบ่ายวันที่ 25 ต.ค.64 เนื่องจากโจทก์และจำเลยขอให้ศาลออกหมายเรียกเอกสารเพิ่มเติม ทั้งนี้ คดีนี้เป็นคดีอาญาที่อยู่ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ศาลยังไม่ได้ประทับรับฟ้อง จึงต้องรอคำสั่งศาลต่อไป อย่างไรก็ตาม หากศาลมีการรับฟ้อง ในประเด็นมิชอบด้วยกฎหมาย ไม่น่าจะมีผลกระทบต่อการดำเนินโครงการ เนื่องจากไม่ได้ระงับในการคัดเลือกบริษัทเอกชน
นายภคพงศ์ ยืนยันว่า ไม่หนักใจในเรื่องการสู้คดี เนื่องจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์ ) เป็นไปตามขั้นตอน ข้อกฎหมาย การคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน ตามมติคณะรัฐมนตรี และมติคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนกำหนดอย่างครบถ้วนแล้ว
ส่วนอีก 2 คดีที่อยู่ในการพิจารณาของศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขดำที่ 2280/2563 และคดีหมายเลขดำที่ 580/2564 มีความคืบหน้าดังนี้
-คดีหมายเลขดำที่ 2280/2563 ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งยืนตามคำสั่งศาลปกครองกลางที่จำหน่ายคดีในข้อหาที่ฟ้องขอให้เพิกถอนหลักเกณฑ์ร่วมลงทุนที่แก้ไขเพิ่มเติม ดังนั้น จึงไม่มีประเด็นพิพาทเกี่ยวกับการเพิกถอนหลักเกณฑ์อยู่ในการพิจารณาของศาลปกครองอีกต่อไป คงเหลือแต่ข้อหาที่ผู้ฟ้องคดีขอให้ รฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 ชดใช้ค่าเสียหายในมูลละเมิดจำนวน 500,000 บาท เท่านั้น
-ส่วนคดีหมายเลขดำที่ 580/2564 ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งยืนตามคำสั่งศาลปกครองกลางที่ไม่รับคำฟ้องข้อหาเกี่ยวกับการกระทำละเมิด และคำขอห้ามมิให้คณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 และรฟม.กระทำการหรือดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการคัดเลือกเอกชนในโครงการพิพาทครั้งใหม่ไว้พิจารณา โดยให้เหตุผลว่าการดำเนินการคัดเลือกเอกชนเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 ยกเลิกการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนในโครงการนี้เท่านั้น ดังนั้น จึงไม่มีประเด็นพิพาทเกี่ยวกับการดำเนินการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนในครั้งใหม่อีกต่อไป
#โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม
#การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย