สถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลก ปิดตลาดพุ่งแรง หลังจากพบว่าคลังปิโตรเลียมสำรองสหรัฐฯ ลดลงเกินคาด
-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือน ต.ค.64 เพิ่มขึ้น 2.15 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 72.61 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล
-ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพ.ย.64 เพิ่มขึ้น 1.86 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 75.46 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (อีไอเอ) รายงานเมื่อวานว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 10 ก.ย.64 ลดลงถึง 6.4 ล้านบาร์เรล เหลือ 417.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่พวกนักวิเคราะห์ คาดหมายไว้ว่าจะลดลง 3.5 ล้านบาร์เรล
สต๊อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล นักวิเคราะห์ คาดว่า ลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล ขณะเดียวกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คลังสำรองน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงน้ำมันทำความร้อนและน้ำมันดีเซล ลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่พวกนักวิเคราะห์ คาดว่า จะลดลง 2 ล้านบาร์เรล
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกแรง ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันพุ่งทะยานและข้อมูลเศรษฐกิจต่างๆของสหรัฐฯ ชี้ว่า อัตราเงินเฟ้อขึ้นสู่จุดสูงสุดแล้วและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเริ่มมีความแน่นอนมากขึ้น
-ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 236.82 จุด หรือร้อยละ 0.68 ปิดที่ 34,814.39 จุด
-เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 37.65 จุด หรือร้อยละ 0.85 ปิดที่ 4,480.70 จุด
-แนสแดค เพิ่มขึ้น 123.77 จุด หรือร้อยละ 0.82 ปิดที่ 15,161.53 จุด
สัปดาห์หน้า จะมีการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ เป็นเวลา 2 วัน นักลงทุนติดตามผลการประชุมว่าจะเริ่มลดระดับการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่
ราคาทองคำ ปิดลบพอสมควร หลังจากขยับขึ้นหนึ่งวันก่อนหน้านี้
-ราคาทองคำโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนธ.ค.64 ลดลง 12.30 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 1,794.80 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์
#หุ้นดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น