นายกฯ ย้ำมีเหตุผล 2 รัฐมนตรีพ้นตำแหน่ง 'ธรรมนัส' บอก เดินทางเดียวกันไม่ได้!

          หลังมีประกาศราชกิจจานุเบกษา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ถอนหายใจพร้อมกล่าวว่า ได้ข่าวเมื่อกี้นี้รัฐมนตรีลาออก เขาก็เคยพูดไว้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ร.อ.ธรรมนัส ว่าไม่ได้เป็นรัฐมนตรีก็ออกไปเป็น ส.ส ก็สามารถช่วยประชาชนได้ ซึ่งที่ผ่านมาก็ช่วยงานกันมาโดยตลอด เดี๋ยวคงเป็นเรื่องของพรรคที่จะไปหารือกันว่าจะทำอย่างไร แต่ยืนยันว่างานทุกงานไม่มีหยุดยั้ง มีคนทำงานให้อยู่แล้ว พร้อมให้คอยดู คอยฟังข่าว เมื่อย้ำถามว่าถ้าปรับจะปรับกี่ตำแหน่ง นายกฯกล่าวว่า “ผมยังไม่ปรับใครในตอนนี้ เมื่อมีรัฐมนตรีลาออกก็ทำให้มีตำแหน่งว่าง ซึ่งผมก็ยังไม่ปรับคนเข้า”

           ส่วนร.อ.ธรรมนัสและนางนฤมล มาลาออกกับนายกฯก่อนแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ได้แจ้งใครทั้งสิ้น มันอยู่ที่ตน ตนทำของตน เมื่อถามอีกว่ามีเหตุผลอะไร นายกฯกล่าวว่า “เหตุผลของผม ก็คือเหตุผลของผม” ส่วนจะเป็นผลพวงจากการอภิปรายหรือไม่นายกฯกล่าวว่า ทั้งหมดข่าวก็มาจากสื่อทั้งนั้น 

          จากนั้นนายกฯได้เดินหนีออกจากโพเดียมอีกครั้ง ขณะที่สื่อมวลชนยังพยายามถามอีกหลายคำถาม และถามย้ำว่าสรุปว่าการลาออกของ 2 รัฐมนตรีเป็นผลจากการอภิปรายหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่าไม่เกี่ยวกับการอภิปราย พร้อมเอามือตบที่หน้าอก และกล่าวว่า “ทำเพื่อประชาชนทำเพื่อการบริหารงาน ไม่ต้องยืนยันนอนยันอะไรทั้งนั้นแหละ เป็นเรื่องของนายกฯ”

          ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า นายกฯ เดินทางไปยังมูลนิธิป่ารอยต่อ เพื่อพูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี

          ด้าน ร.อ.ธรรมนัส เปิดแถลงข่าวที่รัฐสภาว่า ได้ยื่นหนังสือขอลาออกจากตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ถึงนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2564 เป็นต้นไป หลังจากนี้จะกลับไปตั้งต้นที่จังหวัดพะเยาหรือจังหวัดอื่น หากได้กลับมามีอำนาจวาสนาอีกครั้งก็ตั้งใจว่าจะทำงานเพื่อชาติ

          สำหรับสาเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะทำงานกับนายกรัฐมนตรีไม่ได้แล้วหรือไม่ รอ.ธรรมนัส กล่าวว่า เดินไปในทิศทางเดียวกันไม่ได้ ที่จริงแล้วก่อนที่จะลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ได้หารือกับ พล.อ.ประวิตร ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐว่าจะลาออก แต่หัวหน้าพรรคห้ามไว้ แต่ที่สุด ต้องขัดคำสั่งหัวหน้าพรรคเพราะไตร่ตรองแล้วว่าทางเดินชีวิตเดินเพื่อประชาชน ต้องเดินไปอีกไกล ดังนั้น จึงตัดสินใจเด็ดขาดด้วยตนเอง

          ส่วนปัญหาจะจบหรือไม่นั้น ก็ยอมรับว่าไม่จบ เพราะยังไม่สบายใจ เราต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เรากระทำไป ซึ่งหมายความว่าเมื่อเราพูดด้วยเหตุด้วยผลแล้ว ไม่เกิดประโยชน์ วิธีการที่ดีที่สุดคือต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง ส่วนจะยังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณากันต่อไป แต่ก็เป็นไปได้ที่จะไปอยู่บ้านหลังใหม่

#ปรับคณะรัฐมนตรี 

#นายกรัฐมนตรี