ผลวิจัยจีนเผยซิโนแวคเข็มที่ 3 ช่วยภูมิคุ้มกันสูงขึ้น ต้านกลายพันธุ์

         รอยเตอร์รายงาน ผลการวิจัยเรื่องวัคซีนโดยสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน ร่วมกับมหาวิทยาลัยฟูตัน(ในนครเซี่ยงไฮ้) บริษัทซิโนแวค ไบโอเท็ค ผู้ผลิตวัคซีนโคโรนาแวค(CoronaVac)และสถาบันวิจัยอื่นๆของประเทศจีน ศึกษาในห้องแล็บของประเทศจีนโดยใช้กลุ่มตัวอย่างอาสาสมัครรวม 66 คน รวมทั้งอาสาสมัคร 38 คนที่รับวัคซีนโคโรนาแวค 2 หรือ 3 เข็ม ทีมวิจัยพบว่า 4 สัปดาห์ หลังการฉีดวัคซีนโคโรนาแวคเข็มที่ 3 ระดับภูมิคุ้มกันของคนไข้จะสูงกว่าเดิมราว 2.5 เท่า เมื่อเทียบกับระดับภูมิคุ้มกัน 4 สัปดาห์ หลังการรับวัคซีนเข็มที่ 2

         แต่ทีมวิจัยไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่า ระดับภูมิคุ้มที่สูงขึ้นสามารถจะช่วยป้องกันเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ เช่น สายพันธุ์เดลตาได้หรือไม่ แต่ผลวิจัยเช่นนี้อาจจะช่วยลดความกังวลของหลายคนในเรื่องประสิทธิภาพการควบคุมเชื้อไวรัสชนิดกลายพันธุ์ของวัคซีนจากบริษัทซิโนแวคในระยะยาว ในปัจจุบันเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาเริ่มเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดในหลายประเทศทั่วโลก หลายประเทศพบผู้ป่วยใหม่เพิ่มอย่างรวดเร็ว แม้กระทั่งในกลุ่มประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่รับวัคซีนครบโดสก็ตาม

         ที่ผ่านมา หลายประเทศที่ใช้วัคซีนจากบริษัทซิโนแวคเริ่มฉีดวัคซีนบูสเตอร์เข็มที่ 3 โดยใช้วัคซีนที่ผลิตโดยชาติตะวันตก เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันให้กับประชาชนที่รับวัคซีนโคโรนาแวคครบ 2 เข็มแล้ว หลังผลการศึกษาก่อนหน้านี้ บ่งชี้ว่า 6 เดือนภายหลังฉีดวัคซีนโคโรนาแวค ระดับภูมิคุ้มกันในร่างกายของคนไข้จะค่อยๆลดลงจากเดิม อาจจะมีผลให้ประสิทธิภาพการป้องกันเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาด้อยลง

         ขณะเดียวกัน องค์การอนามัยโลกในฐานะองค์การหลักที่จัดโครงการกระจายวัคซีนทั่วโลก(Covax) เตรียมส่งมอบวัคซีนรวม 100 ล้านโดสจากบริษัทซิโนแวคและบริษัทซิโนฟาร์มของประเทศจีนให้กับหลายประเทศในทวีปแอฟริกาปลายเดือนนี้ นับเป็นครั้งแรกที่โครงการ Covax ส่งมอบวัคซีนจากประเทศจีนให้กับประเทศที่รับบริจาควัคซีนในโครงการ Covax

#จีน

#วัคซีนซิโนแวค

#โครงการCovax