กรณีมีคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดคดีเหมืองแม่เมาะ จ.ลำปาง ที่ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ดำเนินมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมให้ครบถ้วน นายสุนชัย คำนูณเศรษฐ์ ผู้ว่าการกฟผ. ยืนยันว่า กฟผ. ดำเนินการตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด และมีมาตรการดูแลสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างดี โดยจะใช้เวลาอีก 90 วันเพื่อปรับปรุงตามที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้ปฎิบัติ ชี้แจงว่ากฟผ. ไม่ได้ละเลยสิ่งแวดล้อม และจะทำตามขั้นตอนการขอประทานบัตรแม่เมาะอย่างโปร่งใส เตรียมสร้างและปรับปรุงโรงไฟฟ้าทดแทนที่แม่เมาะ รวมทั้งเตรียมจัดทำแผนฟื้นฟูเหมืองที่แม่เมาะ เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี ส่วนการดำเนินการจัดตั้งโรงไฟฟ้ากระบี่ คาดว่าอีก 3 เดือนจะได้รับการพิจารณาและจะได้รับอนุมัติสิ้นปีนี้ แม้จะมีเสียงคัดค้าน แต่มองว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องเร่งทำ ส่วนเรื่องที่พม่า เตรียมลดการส่งก๊าซให้ไทย5,000-6,000เมกะวัตต์ ในเดือนเมษายนนี้ ผู้ว่ากฟผ.เชื่อว่า จะไม่ส่งผลกระทบต่อพลังงาน เพราะมีเชื้อเพลิงสำรองไว้แล้วประมาณ 4,000 เมกะวัตต์ ประกอบกับความต้องการใช้ไฟฟ้าช่วงดังกล่าวน้อยลงอยู่แล้ว อย่างไรก็ดี ยอมรับว่าปัญหาความมั่นคงทางพลังงานเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องเร่งแก้ไข และทางเลือกก็มีไม่มาก พลังงานทดแทนยังไม่มีเสถียรภาพที่ใช้ได้จริง ประกอบกับขณะนี้มีความต้องการใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ 24,000 เมกกะวัตต์ ส่วนแผนการดำเนินงานในปีนี้ กฟผ.มีแผนปรับปรุงโรงไฟฟ้าที่เสื่อมโทรมและมีอายุการใช้งานมานานหลายสิบปี รวมทั้งปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าย่านกรุงเทพฯและปริมณฑล เช่น โรงไฟฟ้าพระนครใต้ โรงไฟฟ้าบางปะกง รวมทั้งพัฒนาระบบส่งไฟฟ้าตามแผนงานปี 2559-2562 และการสร้างพลังงานทดแทนให้มากขึ้น เตรียมนำเสนอโครงการกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (อินฟราฟันด์) ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาในเดือนเมษายน โดยใช้งบประมาณ 20,000 ล้านบาท นอกจากนี้กระทรวงพลังงานยังมีแผนควบคุมและประหยัดพลังงานหรือพีดีพี โดยให้เพิ่มมาตรการพลังงานทดแทน เชื่อว่าจะช่วยประหยัดการใช้พลังงานได้กว่า 10,000เมกกะวัตต์ คาดว่าอีกราว 2 เดือนแผนงานของกระทรวงพลังงาน จะมีความชัดเจนมากขึ้น
ธีรวัฒน์