เตรียมเปิด 30 จังหวัด รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เริ่ม 1 ต.ค.นี้

          แนวทางเปิดแหล่งท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางกลับมาเที่ยวไทย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า จากการหารือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อเสนอต่อที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ภายในเดือนก.ย.นี้ ให้อนุมัติเปิดพื้นที่ 30 จังหวัดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยไม่ต้องกักตัว เริ่ม 1 ต.ค.ใน 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เปิดอ.เมือง อ.แม่ริม อ.ดอยเต่า, ประจวบคีรีขันธ์ เปิด อ.หัวหิน, เพชรบุรี เปิด อ.ชะอำ และชลบุรี เปิด อ.พัทยา อ.บางละมุง อ.สัตหีบ ส่วนกรุงเทพฯ ต้องเลื่อนไปเป็นเดือนพ.ย. เพื่อให้ประชากรในกรุงเทพฯ  และปริมณฑล ฉีดวัคซีนครบ 2 โดส ได้ 70% ของประชากรก่อน

          สำหรับแผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่อยู่ในจังหวัดนำร่อง เช่น ภูเก็ต เกาะสมุย ครบ 7 วันแล้ว สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวต่ออีก 25 จังหวัด เริ่มใน 15 ต.ค. ประกอบด้วย ภาคเหนือ ได้แก่  แม่ฮ่องสอน เชียงราย แพร่ น่าน ลำพูน สุโขทัย ภาคอีสาน ได้แก่ อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ  อุบลราชธานี เลย (เชียงคาน)

          ภาคตะวันออก ได้แก่ ระยอง (เกาะเสม็ด) จันทบุรี ตราด (เกาะกูด เกาะช้าง) ภาคตะวันตก  ได้แก่ ราชบุรี กาญจนบุรี ภาคใต้ ได้แก่ ระนอง ตรัง สตูล สงขลา นครศรีธรรมราช พัทลุง และ ภาคกลาง ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา

          รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวฯ ย้ำว่า พร้อมเสนอแผนช่วงที่ 4 วันที่ 1-15 ม.ค.ทำบับเบิล หรือแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวกับประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ กัมพูชา เมียนมา ลาวและมาเลเซียสร้างรายได้ถึงปีละ 200,000 ล้านบาท

          สำหรับแผนเปิดให้คนไทยเดินทางเที่ยวในประเทศ ที่มีโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 และโครงการทัวร์เที่ยวไทยปัจจุบันทั้ง 2 โครงการมีกรอบเงินกู้คงเหลือ 10,988 ล้านบาท จากเราเที่ยวด้วยกัน 5,958 ล้านบาทและทัวร์เที่ยวไทย ที่ยังไม่ได้เริ่มเลย 5,000 ล้านบาท จะเสนอได้ในเดือนต.ค.นี้ จากนั้นในเดือนพ.ย.จะเสนอให้คนไทยเที่ยวทั่วประเทศได้แบบไม่มีเงื่อนไข

           ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.-31 ส.ค. 2564 ไทยเริ่มนำร่องโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ พบว่า มีชาวต่างชาติเดินทางมา 26,400 คน ใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวรวม 1,634 ล้านบาท เกิดเม็ดเงินขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 3,818 ล้านบาท จ้างงาน 5,352 คน สร้างผลตอบแทนการจ้างงาน 416 ล้านบาท รัฐเก็บภาษีได้ 171 ล้านบาท

#ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์

#โควิด19