ดร.ธรณ์ เตือนภาวะโลกร้อน สร้างภัยพิบัติทั่วโลก จับตาประชุมCop26 เดือนพ.ย.นี้

          สภาพฝนตกหนักน้ำท่วม ในนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ล่าสุด ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Thon Thamrongnawasawat  ส่วนหนึ่งระบุว่า สภาพอากาศแปรปรวน เกิดภาวะโลกร้อน หลังจากเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว เกิดคลื่นความร้อนในแคนาดา น้ำท่วมหนักในเยอรมนี ไฟป่าที่กรีก น้ำท่วมที่จีน และดินถล่มในญี่ปุ่น พร้อมระบุว่า ภาวะโลกที่ร้อนขึ้น ส่งผลกับฝนตกหนัก เพราะความร้อนทำให้น้ำระเหยจากทะเลและมหาสมุทรมากขึ้น รวมถึงในประเทศไทย ก็เผชิญฝนหนักแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวเพิ่มมากขึ้น

          ข้อมูลจากเวิล์ดแบงค์ ยังบอกถึงความเสี่ยงของประเทศไทยที่อยู่ในลำดับต้นๆ ของน้ำท่วม (Climate Risk) จากรายงาน IPCC โลกร้อนที่เพิ่งออกมา และจากภัยพิบัติที่เกิดแบบกระหน่ำในช่วง 2 เดือน แม้แต่เมืองอันดับท็อปของโลกยังหนีไม่พ้น พร้อมแนะนำให้ติดตามการประชุมสุดยอดผู้นำจากทุกประเทศในเรื่องโลกร้อน COP26 ที่เมืองสก็อตแลนด์ ในเดือนพฤศจิกายนครั้งนี้ ซึ่งมีมาตรการต่างๆ จะออกมาและส่งผลต่อเศรษฐกิจการค้าการลงทุนการเงิน ฯลฯ ทำให้ผลกระทบจากโลกร้อน จึงไม่ใช่แค่ภัยพิบัติ แต่ยังรวมถึงมาตรการที่ออกมา จะส่งผลต่อแนวทางพัฒนาและเศรษฐกิจของทุกประเทศ ขณะที่ไทยเป็นแค่ประเทศเล็กๆ ในโลก ย่อมจะได้รับความเดือดร้อนกันเช่นกัน

          ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า การประชุมสุดยอดด้านสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติ หรือ COP26 จัดขึ้นที่เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักรในเดือนพฤศจิกายนนี้ จะมีผู้นำจาก 196 ประเทศทั่วโลก โดยมีประเด็นที่น่าจับตาคือ ประเทศต่าง ๆ ต้องตอบว่าจะทำอย่างไรถึงจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ หรือ Net Zero หรือการไม่ปล่อยก๊าชเรือนกระจกไปมากกว่าที่สามารถกำจัดได้ ภายในปี 2050 รวมไปถึง การหยุดเผาเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นปัจจัยหลัก โดยมีกระบวนการที่ต้องทำคือ

-การหยุดใช้พลังงานถ่านหิน

-การหยุดตัดไม้ทำลายป่า

-การเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า

-การลงทุนในการผลิตพลังงานหมุนเวียน

          และที่สำคัญประเทศชาติที่ร่ำรวยต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้ว่าเมื่อถึงปี 2020 ให้งบฯช่วยเหลือ 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กับประเทศที่ยากจน ซึ่งจนถึงตอนนี้ กลุ่มประเทศเหล่านั้นยังบริจาคได้เพียง 7.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

อ่านฉบับเต็ม https://www.facebook.com/thon.thamrongnawasawat

#น้ำท่วมสหรัฐ

#ภาวะโลกร้อน