ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวแถลงการณ์จากทำเนียบขาว ยุติการทำสงครามในอัฟกานิสถานและปกป้องการถอนทหารว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว ทั้งแสดงจุดยืนไม่ต้องการส่งชาวอเมริกันรุ่นต่อไป ไปสู้รบใน “สงครามตลอดกาล"
การตัดสินใจของประธานาธิบดีในการถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน และการอพยพอย่างเร่งรีบทั้งที่ยังมีชาวอเมริกันตกค้างอยู่อีกประมาณ 100 ถึง 200 คน ทำให้เขาถูกนักการเมืองฝ่ายรีพับลิกันวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก แต่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวยืนยันว่าการยุติการทำสงคราม 20 ปีเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดและเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดสำหรับอเมริกา ทั้งเป็นสิ่งที่ควรทำตั้งแต่เมื่อหลายปีที่แล้ว นอกจากนี้เขายังเห็นว่าภารกิจการอพยพเป็นความสำเร็จที่ไม่ธรรมดา
นอกจากนี้ประธานาธิบดียังเปิดเผยด้วยว่า กองทัพสหรัฐฯสูญเสียเจ้าหน้าที่มากกว่า 2,400 นายและมีค่าใช้จ่ายมากถึง 2 ล้าน 3 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งจบลงด้วยการที่กลุ่มตอลิบานกลับคืนสู่อำนาจ
ฝ่ายพรรครีพับลิกัน นำโดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดี กล่าววิจารณ์ว่าเป็นความล้มเหลวที่น่าอับอาย เป็นความพ่ายแพ้ที่เสียหายมากกว่าการอพยพออกจากไซง่อนในปี 2518 เป็นการส่งสัญญาณต่อโลกว่าสหรัฐฯ ยอมแพ้ ขณะที่พรรครีพับลิกันทวีตข้อความว่า มีเจ้าหน้าที่ 13 นายเสียชีวิต มีชาวอเมริกันหลายร้อยคนถูกทอดทิ้ง อาวุธและยุทธภัณฑ์มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ตกอยู่ในมือของตอลิบานแล้ว
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีไบเดน กล่าวชี้แจงว่า ชาวอเมริกันที่เหลืออยู่ในอัฟกานิสถาน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบุคคล 2 สัญชาติ ซึ่งกลุ่มตอลิบานให้คำมั่นว่าจะอนุญาตให้พวกเขาเดินทางออกจากประเทศได้ หากต้องการ ทั้งยืนยันเดินหน้าภารกิจในการไล่ล่าสมาชิกกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอสที่ก่อเหตุระเบิดสนามบินคาบูลทำให้มีเจ้าหน้าที่อเมริกันเสียชีวิต
ประธานาธิบดีไบเดน กล่าวด้วยว่า การถอนกำลังออกจากอัฟกานิสถานคือการสิ้นสุดยุคของปฏิบัติการทางทหารเพื่อสร้างประเทศอื่น ๆ ขึ้นมาใหม่ เพราะนโยบายของเขาคือการนำประเด็นสิทธิมนุษยชนเป็นศูนย์กลางของนโยบายการต่างประเทศ
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีไบเดนยังกล่าววิจารณ์รัฐบาลอัฟกันที่ถูกกลุ่มตอลิบานยึดอำนาจโดยไม่มีการต่อสู้ และวิจารณ์นายทรัมป์ ที่มีการทำข้อตกลงปล่อยตัวนักโทษตอลิบานราว 5,000 คน ทำให้กลุ่มมีความเข้มแข็งมากขึ้น
...
#สหรัฐอเมริกา
#อัฟกานิสถาน
#ตอลิบาน