ยกการ์ดให้สูง! ศบค.คลายล็อกให้กินข้าวในร้านในห้างฯ-คงพื้นที่แดงเข้ม 29 จังหวัด มีผล 1 ก.ย.นี้

27 สิงหาคม 2564, 13:43น.


           แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)  ย้ำว่า ที่ประชุม ศบค.ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เป็นประธาน เช้าวันนี้ มีมติเห็นชอบให้ผ่อนคลายมาตรการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยให้ห้างสรรพสินค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ รวมถึงร้านอาหารในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดใน 29 จังหวัดเปิดให้บริการได้ แต่ยังต้องอยู่ภายใต้มาตรการเข้มงวดด้านสาธารณสุข รวมทั้งไม่มีการปรับลดจำนวนจังหวัดสีแดงเข้มด้วย โดยให้คงไว้ 29 จังหวัดเท่าเดิม 



-ร้านอาหารในพื้นที่โล่งแจ้งนั่งรับประทานอาหารได้ 75 % 



-ร้านอาหารที่เป็นห้องปรับอากาศ นั่งรับประทานอาหารได้ 50 % รวมถึงร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า



          การเปิดกิจการกิจกรรมบางอย่าง จะเริ่มวันที่ 1 กันยายน 2564 ในพื้นที่นำร่อง เช่น ร้านอาหารบางแห่งที่พร้อม พนักงานฉีดวัคซีนครบถ้วน สามารถหาชุดตรวจ ATK ได้ เป็นต้น โดยไม่ได้ปล่อยเปิดทุกร้าน จะนำร่องเป็นแห่งๆไป ซึ่งจังหวัด หรือสมาคมภัตตาคารไทยในพื้นที่นั้นๆจะช่วยพิจารณา และแนะนำ เพื่อให้เปิดได้ตามมาตรการของ ศบค.



          ส่วนการการเดินทางข้ามจังหวัด เดินทางได้ แนะนำให้เลี่ยงเดินทาง หรือเดินทางเฉพาะที่จำเป็น ส่วนระบบขนส่ง จำกัดจำนวนผู้โดยสารไม่เกิน 75% รถตู้ , รถโดยสารระยะไกล แวะระบายอากาศทุก 2-3 ชม. โดยกลุ่มแรงงานให้ใช้การ Seal route ตามแนวทาง Bubble & Seal และผู้ป่วยที่จะกลับภูมิลำเนาให้เข้าโครงการเท่านั้น เป็นต้น



ร้านในห้างสรรพสินค้า ที่อนุญาตให้เปิดได้เพิ่มเติม



-ร้านเสริมสวย ตัดผม แต่งผม เปิดให้บริการเฉพาะตัดผม ไม่เกิน 1 ชั่วโมง แบบให้นัดหมายล่วงหน้า จองคิว



-ร้านนวด เปิดได้เฉพาะนวดเท้า 



-คลินิกเสริมความงาม เปิดเฉพาะขายสินค้าเท่านั้น 



ร้านในห้างสรรพสินค้า จุดที่ยังเปิดไม่ได้ คือ ฟิตเนส สวนสนุก สวนน้ำ โรงหนัง ที่ประชุมจัดเลี้ยง สถาบันกวดวิชา  



ร้านนอกห้างสรรพสินค้าที่สามารถเปิดได้



-ร้านเสริมสวย ตัดผม นวด แต่เป็นการจองคิว ใช้เวลาให้น้อย 



กิจการกิจกรรมอื่นๆ 



-สนามกีฬาเปิดให้สำหรับการฝึกซ้อม เล่นกีฬา  รวมกลุ่มให้น้อยที่สุด ต้องขออนุญาตคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด การแข่งขันยังไม่ให้มีผู้ชม



-กิจกรรมที่ยังไม่ให้เปิดบริการ เช่น สถานศึกษายังไม่เปิดเรียน แต่ให้ใช้อาคารได้แต่ต้องขออนุญาต 



         นอกจากนั้น ยังจำกัดการเดินทางเช่นเดิม โดยให้ใช้มาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคลในลักษณะ Univerasal Prevention หรือ การป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล เช่น ออกจากบ้านเมื่อจำเป็นเท่านั้น,หากเป็นกลุ่มเสี่ยง และผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี และผู้มีโรคเรื้อรัง ให้หลีกเลี่ยงการออกนอกบ้าน เว้นแต่จำเป็น (น้อยครั้งและใช้เวลาสั้นที่สุด) เป็นต้น ขณะเดียวกัน ศบค.ยังคงมาตรการห้ามออกจากเคหสถานภายในเวลาที่กำหนดตามเดิม คือ 21.00-04.00 น. มีผล 1 ก.ย.นี้ 



#คลายล็อก



#โควิด19

ข่าวทั้งหมด

X