ปัญหาโครงการทุจริตรับจำนำข้าวของนางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า ส่วนตัวเคยเตือนและแนะนำว่าให้ยุติโครงการในสมัยที่เป็นผู้บัญชาการทหารบก ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นนายกรัฐมนตรี ไปแล้วหลายรอบ แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุว่าสามารถเคลียร์ปัญหาได้ ยืนยันว่า กองทัพพร้อมสนับสนุนทุกรัฐบาลในการทำงาน แต่เมื่อแนะนำแล้วไม่ทำตาม ก็เป็นสิ่งที่รัฐบาลและตัวนายกฯต้องรับผิดชอบเอง พร้อมย้ำว่ารัฐบาลไม่เคยตั้งธงหรือไล่ล่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ด้วย
ส่วนเสียงคัดค้านจากหลายฝ่ายให้รัฐบาลระงั้บการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 พล.อ. ประยุทธ์ ได้มอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพลังงาน ไปดูข้อเท็จจริง และพูดคุยทำความเข้าใจกับทุกฝ่าย แต่ส่วนตัวมองว่า ควรเปิดสัมปทานไปก่อน หากเห็นว่าไม่สมควรก็ค่อยยกเลิกภายหลัง เพราะกว่าจะสำรวจและเริ่มขุดเจาะคงใช้เวลาอีก5-6 ปี เพราะ หากรัฐบาลใช้งบเองก็จะต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ซึ่งส่งผลต่องบประมาณของประเทศ และเอกชนน่าจะมีงบและประสิทธืภาพการผลิตที่ดีกว่า รัฐบาลยังไม่มีความชำนาญในด้านนี้ ส่วนตัวเองนั้นพร้อมรับฟังความเห็นทุกฝ่าย ซึ่งหากมีเหตุผลที่ดีเพียงพอว่าจะไม่เปิดสัมปทานก็รับได้ แต่หากภายหลังค่าแก๊สและพลังงานมีราคาแพงขึ้น ประชาชนก็ต้องยอมรับ และผู้ที่มีส่วนร่วมคัดค้านก็ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำ จะมาตำหนิรัฐบาลไม่ได้ นายกฯยังระบุด้วยว่า ทราบมาว่าในปีหน้าพม่าจะลดการจ่ายพลังงานให้ไทยลงอีกกว่า 2,000,000 ลูกบาศก์ฟุตซึ่งอาจทำให้มีปัญหาด้านพลังงานเกิดขึ้นด้วย อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้ตัดสินใจในขั้นตอนสุดท้าย ว่าจะเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 หรือไม่
ส่วนการติดตามคนร้าย ก่อเหตุระเบิดทางเชื่อมต่อ บีทีเอสสยาม-สยามพารากอน พล.อ. ประยุทธ์ ระบุว่า ต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่เชื่อมโยงคดี และอย่าเพิ่งเร่งรัดการทำงาน เพราะต้องใช้ความรอบคอบในการสอบสวน