หลังเกิดปัญหาการยักยอกเงินของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง หรือ สจล. วันนี้ เป็นวันแรก ที่มีการแถลงร่วมกันระหว่างสจล. และ ธ.ไทยพาณิชย์ โดยมีนายโมไนย ไกรฤกษ์ รักษาการแทนอธิการบดีสจล. / นายจำรูญ เล้าสินวัฒนา รักษาการแทนรองอธิการบดีสจล. เป็นตัวแทนฝ่ายสจล. และ นายวิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหารธนาคารไทยพาณิชย์ / นางวัลลยา แก้วรุ่งเรือง รองผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานกฎหมาย ธนาคารไทยพาณิชย์ โดยมีนายกำจร ตติยกวี เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือ สกอ. ร่วมด้วย เพื่อเร่งหาตัวผู้กระทำผิด
นายจำรูญ ระบุว่า จากการตรวจสอบพบความผิดปกติบัญชีเงินฝากของธนาคารไทยพาณิชย์รวม 8 บัญชีที่มีการเบิกถอนทั้งสิ้น 68 รายการ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางสถาบันได้ร้องขอกับทางธนาคารมาหลายครั้ง แต่ธนาคาร ได้จัดส่งเอกสารให้กับทางสถาบันเพียง 29รายการ ของ สาขาบิ๊กซี สุวินทวงศ์ และยังเหลืออีก 39 รายการ จากการเจรจาได้ข้อสรุปว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ จะทยอยส่งเอกสารจำนวน 8 รายการชุดแรก ให้ภายในวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ ส่วนอีก 31 รายการที่เหลือจะส่งให้ครบภายในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ โดยจะส่งต้นฉบับให้กับพนักงานสอบสวน กองปราบปราม
หลังจากนี้จะมีการทำธุรกรรมทางการเงินกับธนาคารไทพาณิชย์อีกหรือไม่ เป็นเรื่องของอนาคต แต่จากการพูดคุยกับทางธนาคารไทยพาณิชย์ และผู้บริหารได้แสดงความจริงใจ ทำให้ความสัมพันธ์ดีขึ้น
ด้านนายวิชิต ยืนยันว่า ให้ความร่วมมือกับตำรวจมาโดยตลอด พร้อมตั้งนางวัลลยา เป็นหัวหน้าคณะทำงานเฉพาะเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีที่เกิดขึ้น หากได้ข้อสรุปพบว่าพนักงานธนาคารมีความเกี่ยวข้อง ทางธนาคารพร้อมจะรับผิดชอบตามกฎหมาย นอกจากนี้ ธนาคารยังออกมาตรการให้มีความรัดกุมเพิ่มมากขึ้น เพื่อป้องกันกรณีดังกล่าวและเรียกความมั่นใจจากลูกค้าของธนาคารกลับคืนมา อาทิ การลดอำนาจอนุมัติรายการเงินสดและเงินโอนของสาขามาไว้ที่ส่วนกลาง ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า การเบิกถอนเงินโดยไม่ได้เซ็นชื่อในการเบิกถอน รวมถึงการเซ็นชื่อย้อนหลังนั้น ธนาคารชี้แจงว่าบางกรณีสามารถทำได้ แต่ทาง สจล. ยืนยันไม่มีนโยบาย และไม่สามารถทำได้
ส่วนเลขาธิการ สกอ. กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นถือเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ให้กับสถาบันการศึกษาอื่นๆ โดย สกอ. เตรียมเชิญรองอธิการบดีด้านการเงินของแต่ละมหาวิทยาลัยร่วมประชุมถอดบทเรียน แบ่งปันปัญหาด้านการเงินของแต่ละสถาบัน ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์นี้