หลังจากที่ทั้งวันมีกระแสข่าวการมอบตัวของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ หลังจากทนแรงกดดันจากทางชุดไล่ล่าที่ผบ.ตร. ตั้งขึ้นวานนี้ไม่ไหว ล่าสุดมีรายงานว่าเพราะทนแรงกดดันไม่ได้ ทำให้พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ตัดสินใจมอบตัวโดยแจ้งพิกัดว่า ขณะนี้อยู่ที่ใด ชุดไล่ล่าจึงเข้าตรวจสอบและพบตัว พ.ต.อ.ธิติสรรค์ แล้ว โดยได้นำตัวไปยังเซฟเฮาส์ และรายงานให้ทางผู้บังคับบัญชาระดับสูงรับทราบ
ล่าสุดมีรายงานพิกัดที่ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ หลบหนีคือ เมียวดี เมียนมา อยู่ติดกับพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก
โดยขณะนี้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. หัวหน้าชุดสืบสวน ลงพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีจากนั้นในวันพรุ่งนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.จะลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าคดีอีกครั้ง
นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่า พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ชุดไล่ล่าทั้ง 3 ทีม ซึ่งเป็นชุดสืบสวนระดับมือพระกาฬ ประกอบด้วย ทีมไล่ล่าชุดแรกมี พล.ต.ต.จิระภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. เป็นหัวหน้าชุด , ทีมไล่ล่าชุดที่สองมี พล.ต.ต.นพศิลป์ พูนสวัสดิ์ ผบก.สส.ภ.7 เป็นหัวหน้าชุด ส่วนทีมไล่ล่าชุดที่สามมี พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบก.ปส.3 เป็นหัวหน้าชุด ซึ่งทั้งสามทีมขณะนี้ได้ตีวงแคบลงไปทุกขณะ โดยเฉพาะบุคคลรายหนึ่งที่ให้การช่วยเหลือ และพาหลบหนี และให้ที่พักพิง ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดไล่ล่า ได้รายงานให้ พล.ต.อ.สุชาติ ได้รับทราบแล้ว
สำหรับในแนวทางการสอบสวน พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวว่า มีความคืบหน้า และพฤติการณ์ทางคดีมีความชัดเจน ไม่ว่าจากคลิปที่ปรากฏ และผลของการสอบสวน ซึ่งในส่วนของผู้ที่ถูกจับกุมทั้งหมด ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และพบว่าในวันเกิดเหตุจับกุมคือวันที่ 5 สิงหาคม ไม่พบว่าในทึกประจำวัน มีการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาบ้า จำนวนกว่า 100,000 เม็ด แต่อย่างใด
ส่วนในเรื่องของการรีดไถ่เงิน เป็นเพียงข้อมูลที่สื่อรับฟังมาจากผู้ที่ให้ข้อมูลมาเท่านั้น แต่จากการสอบปากคำภรรยาของผู้ตาย ยืนยันว่า วันเกิดเหตุไม่ได้นำยาเสพติดมาด้วย ซึ่งได้สอบปากคำถึงที่มาที่ไปของการพบตำรวจ และไปอยู่ในห้องที่เกิดเหตุได้อย่างไรแล้ว แต่ยังเปิดเผยไม่ได้ รวมถึงเรื่องมูลเหตุจูงใจในการกระทำผิดของผู้ต้องหา เท่าที่ดูพฤติกรรม เหมือนกับจะเป็นการพยายามบีบเค้นเพื่อหาที่ซ่อนของยาเสพติด และทราบว่า ผู้ตายเคยมีประวัติถูกจับกุมในข้อหาครอบครองยาเสพติด
ส่วนการนำหลักฐานวัตถุพยานมาตรวจสอบนั้น ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบห้องที่เกิดเหตุ พร้อมเก็บวัตถุหลักฐานมาหลายรายการ ซึ่งหนึ่งในนั้น มีการนำถุงดำมาตรวจพิสูจน์ด้วย แต่ยังไม่มีการเปิดเผยถึงของกลางที่ยึดมาตรวจสอบต่างๆ นั้นมีอะไรบ้าง และมีเจ้าหน้าที่กองปราบเดินทางลงพื้นที่มาเก็บหลักฐานเพิ่มเติมในห้องเกิดเหตุด้วยด้วย
อย่างไรก็ตาม ในคดีนี้ ดาบโบ้ ซึ่งถือเป็นพ่อบ้านของตำรวจทีมเฉพาะกิจปราบปรามยาเสเพติด ชุด 05 ซึ่งมีประสบการณ์การทำงานอยู่ในพื้นที่ จ.นครสวรรค์มานานหลายปี เป็นคนให้ข้อมูลกับทีมชุดจับว่า ผู้ตายถือเป็นพ่อค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ และมีทรัพย์สินอยู่มาก จึงนำทีมไปจับกุมผู้ตายและภรรยามาจากถนนสายเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ พามาแยกตัวสอบสวนภายในห้องที่เกิดเหตุ
เบื้องต้น พบว่า ผู้ตายมีไอซ์ติดอยู่ที่ตัว 3 กรัม และพบว่า ข้อมูลในโทรศัพท์มือถือ มีการบันทึกภาพถ่ายยาเสพติดไว้เป็นจำนวนมาก จึงได้นำตัวผู้ตายไปค้นบ้านพัก ในพื้นที่ อ.ตาคลี ในช่วงกลางดึก ซึ่งผู้ตายพักอาศัยอยู่กับบิดา แต่ผลการตรวจค้นกลับไม่พบยาเสพติดที่ปรากฏอยู่ในภาพถ่าย จึงได้นำตัวกลับมาเค้นสืบสวนต่อที่ห้องทำงานเดิม จนเกิดเหตุการณ์ตามที่ปรากฏในคลิป และผลการสอบปากคำผู้ที่ถูกจับกุมทั้งหมด ต่างให้การยืนยันว่า ผกก.โจ้ เป็นผู้เข้ามาสอบสวนด้วยตัวเอง และไม่ไม่มีใครเคยพูดเรื่องรับเงิน จำนวน 2 ล้านเพื่อแลกกับอิสรภาพในการปล่อยตัวแต่อย่างใด
ด้าน พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ กล่าวถึงเรื่องพ่อของผู้ตายว่า ช่วงแรกๆ เหมือนไม่ยินยอมให้ความร่วมมือ แต่ช่วงหลังเริ่มให้ความร่วมมือทุกอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อคดี ส่วนการแจ้งความเอาผิดพ่อของผู้ตาย ยังอยู่ในรายละเอียดการพิจารณา ต้องดูในในสำนวนการสอบสวนว่ามีการเชื่อมโยงไปถึงเจ้าตัวหรือไม่ หากมีความผิดเกิดขึ้น ก็ถือเป็นการแจ้งข้อหาดำเนินคดีต่างกรรมต่างวาระ ซึ่งเจ้าตัวจะมีการเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติม ในหลายประเด็นย้อนหลัง และในส่วนของประเด็นทรัพย์สินที่อาจจะมีความซับซ้อน จึงต้องใช้เวลาในการสอบสวนอีกสักระยะหนึ่ง
#คดีคลุมหัว
#รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ