หลังจากกรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเตือนจะมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ระหว่าง 25-30 ส.ค.64 นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน สั่งการให้โครงการชลประทานและสำนักเครื่องจักรกลในพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด หมั่นตรวจสอบอาคารชลประทานให้พร้อมใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพ เร่งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ
ที่สำคัญต้องบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด ควบคู่ไปกับการเก็บกักน้ำให้ได้มากที่สุด พร้อมกับพิจารณาปรับการระบายน้ำให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ โดยไม่กระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำ รวมถึง การเตรียมความพร้อมของเครื่องจักร เครื่องมือ เช่น รถแบคโฮ รถขุด รถเทรลเลอร์ เครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ และ เครื่องผลักดันน้ำ เป็นต้น เข้าไปประจำในพื้นที่เสี่ยงพร้อมปฏิบัติงานได้ตลอดเวลา
นอกจากนี้ ขอให้ประสานการทำงานร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ฝ่ายความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมรับมือสถานการณ์น้ำที่อาจจะเกิดขึ้น หากประชาชนหรือหน่วยงานใด ต้องการความช่วยเหลือ สามารถร้องขอไปได้ที่โครงการชลประทานในพื้นที่ใกล้บ้าน หรือโทร 1460 สายด่วนกรมชลประทาน ตลอดเวลา
อธิบดีกรมชลประทาน ระบุว่า ตามประกาศของกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ เรื่อง “เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก ดินถล่ม น้ำล้นอ่างเก็บน้ำ และน้ำล้นตลิ่ง” จากอิทธิพลของร่องมรสุมตะวันตกเฉียงใต้เริ่มมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศลาวและเวียดนามตอนบน โดยในช่วงวันที่ 25-30 สิงหาคม 2564 ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ประเทศไทยเริ่มมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ฝั่งตะวันตก
#กรมชลประทาน
#กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
#รับมือฝนตกหนัก