70% ของผู้ป่วยอาการดีขึ้น!หลังสปสช.จ่ายยาฟาวิฯ ระหว่างรอเข้า HI

26 สิงหาคม 2564, 09:12น.


          นพ.จักรกริช โง้วศิริ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ขณะนี้ สปสช.ได้จัดระบบส่งยาฟาวิพิราเวียร์ให้ผู้ป่วยที่รอเข้า Home Isolation (HI) ในระบบสายด่วน สปสช. 1330



          ก่อนหน้านี้ กว่าผู้ป่วยจะได้ยาฟาวิพิราเวียร์ ก็เป็นผู้ป่วยอาการสีเหลืองแล้ว แต่ช่วงหลังจำนวนผู้ป่วยรอเตียงมีจำนวนมากขึ้นและเมื่อรอเตียงนานอาการก็แย่ลง ประกอบกับมีเรื่องการทำ HI และการกักตัวในชุมชน (Community Isolation) หรือ CI  โดยเมื่อผู้ป่วยติดต่อมาที่ 1330 ต่อ 14 หรือลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ สปสช. ไลน์ สปสช. @nhso จะมีการจับคู่ระหว่างหน่วยบริการกับผู้ป่วย



          อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก จำนวนผู้ป่วยที่มีมาก หน่วยบริการรองรับได้ไม่ทัน ดังนั้นภายใน 24-48 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ 1330 จะโทรกลับไปสอบถามว่ามีหน่วยบริการมาดูแลแล้วหรือไม่ ถ้ายังไม่มีและอาการป่วยเริ่มเปลี่ยนแปลง สปสช.จะส่งยาฟาวิพิราเวียร์ให้ผู้ป่วยก่อน โดยจะให้ Rider จัดส่งยาให้ถึงบ้านซึ่งจะช่วยลดความรุนแรงของการเจ็บป่วยและเสียชีวิตลงไปได้มาก โดยมีธนาคารทางออมสินเข้ามาช่วยกระจายยาไปตามจุดต่างๆ  



          หลังจากส่งยาแล้วจะมีเจ้าหน้าที่ 1330 โทรไปสอบถามว่าได้รับยาแล้วหรือยัง ทานยาแล้วอาการเป็นอย่างไร ซึ่งจากการติดตามพบว่าประมาณร้อยละ 70 ของผู้ป่วยอาการดีขึ้น ถือเป็นจุดสำคัญเพราะผู้ป่วยอาการไม่หนัก เตียงในโรงพยาบาลก็จะไม่แออัดและมีที่ว่างรองรับคนไข้หนักได้มากขึ้น



         อย่างไรก็ดี ปัญหาที่เจอคือที่อยู่ไม่ชัด หรือบอกแต่บ้านเลขที่ ดังนั้น ผู้ป่วยควรบอกบ้านเลขที่ ชื่อหมู่บ้าน ตรอก ซอย ถนน ให้ชัดเจนเพื่อความรวดเร็วในการจัดส่งยา



          นพ.จักรกริช กล่าวว่า เกณฑ์ที่จะจ่ายยาเป็นไปตามเกณฑ์ที่กรมการแพทย์กำหนด คือ



-กลุ่มที่อายุ 60 ปีขึ้นไป กลุ่มที่มีปัจจัยเสี่ยง 7 กลุ่มโรค ยกเว้นหญิงตั้งครรภ์ รวมทั้งกลุ่มที่เริ่มมีอาการ 4 ข้อ 1.ไข้เกิน 1-2 วัน



 2.เริ่มมีอาการไอ



 3.เหนื่อยหอบ



 4.ถ่ายเหลว รับประทานอาหารไม่ได้



          อาการเหล่านี้ คือ อาการสำคัญที่ต้องรีบจ่ายยา โดยปรับขนาดยาให้เหมาะสมกับน้ำหนักตัว เช่น คนที่น้ำหนักเกิน 90 กิโลกรัม จะทานยาขนาด 200 มก.ติดต่อกัน 5 วัน รวม 64 เม็ด และถ้าทานฟ้าทะลายโจรอยู่ก็ให้งดฟ้าทะลายโจรก่อน



          นอกจากนี้แล้ว เมื่อผู้ป่วยได้รับยาไปแล้วไม่ได้จบเพียงแค่นั้น แต่ยังต้องมีหน่วยบริการเข้ามาดูแลติดตามอาการ ซึ่งเดิมทีวางแผนว่าจะเป็นคลินิกชุมชนอบอุ่นในพื้นที่ที่ผู้ป่วยพักอาศัย แต่เนื่องจากคลินิกมีบุคลากรไม่พอ สปสช.จึงพยายามหาหน่วยงานใหญ่ๆเข้ามาช่วยดูแล เช่น สถานีกาชาดที่ 11 (วิเศษนิยม) โรงพยาบาลในเครือกรมการแพทย์ รวมไปถึงโรงพยาบาลสิชล จ.นครศรีธรรมราช เครือข่ายโรงพยาบาลเอกชน เช่น โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท โรงพยาบาลปิยะเวท ศูนย์บริการสาธารณสุขของ กทม. ตลอดจนที่คลินิกใหม่ๆที่สนใจและสมัครเข้ามารวมๆแล้วกว่า 100 แห่ง



          ผู้ป่วยหลายคนที่พยายามจัดหายาฟาวิพิราเวียร์ด้วยการซื้อออนไลน์ ขอเตือนว่ายานี้ไม่มีจำหน่ายทั่วไป ยาจะสต๊อกไว้ที่องค์การเภสัชกรรมและควบคุมโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ดังนั้น ถ้ามีการขายออนไลน์ไม่ควรไปหลงเชื่อเพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและบางรายจำหน่ายในราคาที่สูงเกินจริง



#สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ



#ยาฟาวิพิราเวียร์



#โควิด19



#HI 

ข่าวทั้งหมด

X