J&J เผยผลศึกษาฉีดวัคซีนบูสเตอร์ เพิ่มภูมิคุ้มกันสูงกว่าเดิม 9 เท่า

26 สิงหาคม 2564, 04:19น.


       บริษัทจอห์นสัน แอนด์​ จอห์นสัน(J&J) ผู้ผลิตวัคซีนประเภทฉีดเข็มเดียวของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ข้อมูลเบื้องต้นจากการทดลองในระยะที่ 2 ในกลุ่มคนอายุ 18-55 ปี และกลุ่มอายุ 65 ปีขึ้นไป ชี้ว่า การฉีดวัคซีนบูสเตอร์ หรือวัคซีนเข็มที่ 2 จะช่วยเพิ่มสารแอนติบอดีชนิดดักจับโปรตีนแอนติเจนของเชื้อไวรัส (binding antibody)ให้สูงกว่าเดิม 9 เท่า 28 วัน ภายหลังฉีดวัคซีนเข็มแรก



         สำหรับสารแอนติบอดีชนิดดักจับโปรตีนแอนติเจนของเชื้อไวรัส (binding antibody)จะไม่ฆ่าเชื้อไวรัส หรือป้องกันการติดเชื้อไวรัส แต่เชื้อไวรัสชนิดนี้จะกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้เฝ้าระวังเชื้อไวรัส จากนั้นเซลล์เม็ดเลือดขาวจะถูกส่งไปฆ่าเชื้อไวรัส



         ก่อนหน้านี้ J&J เผยแพร่ผลการศึกษาเบื้องต้นในเฟส 1/2 ในวารสารการแพทย์ เดอะนิวอิงแลนด์ เจอร์นาล ออฟ เมดิซีน(New England Journal of Medicine) เมื่อเดือนกรกฎาคมว่า ทีมวิจัยของ J&J พบว่า สารแอนติบอดีชนิดฆ่าเชื้อไวรัส(neutralizing antibodies)ที่เกิดขึ้น หลังการฉีดวัคซีนจะยังคงมีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อไวรัสนานถึง 8 เดือน หลังฉีดวัคซีนเข็มเดียวของ J&J



         ขณะเดียวกัน J&J อยู่ระหว่างเสนอแผนการฉีดวัคซีนบูสเตอร์ต่อหน่วยงานกำกับดูแลกฏระเบียบวัคซีนของสหรัฐฯ กลุ่มสหภาพยุโรปและองค์การอนามัยโลก เพื่อพิจารณาอนุมัติเรื่องนี้ต่อไป



Cr: reuters, yahoo,usnews



#วัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน



#โควิด19



#บูสเตอร์โดส

ข่าวทั้งหมด

X