รองโฆษกสตช.ย้ำตร.ไม่ช่วยเหลือคนทำผิด เชื่อพนักงานสอบสวนรู้ ยังอยู่ในไทยหรือไม่ !

          กรณี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ อดีตผู้กำกับ สภ.เมืองนครสวรรค์ กับพวกรวม 7 คน ที่ก่อเหตุทรมาน ผู้ต้องหาในคดียาเสพติด จนทำให้เสียชีวิตนั้น พันตำรวจเอก กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการปล่อยปละละเลย ดำเนินการตามกระบวนการไม่มีการช่วยเหลือกัน  และยังไม่มีการตัดประเด็นใดทิ้ง ซึ่งยังรวมถึงการตรวจสอบด้วยว่า ใบรับรองการชันสูตรของแพทย์ มีความถูกต้องหรือไม่ หรือมีส่วนเข้าไปช่วยเหลือ หรือไม่ หรือยังมีใครเข้าข่ายการกระทำความผิด ก็ต้องตรวจสอบและนำตัวมาดำเนินคดีด้วยเช่นกันหากพบว่าการกระทำนั้นผิดกฎหมาย 

          ก่อนหน้านี้ ศาลจังหวัดนครสวรรค์ ได้มีการออกหมายจับแล้ว 7 คน สามารถจับกุมได้แล้ว 4 คน ในข้อหา เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ข่มขืนใจผู้อื่นฯ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมาน ซึ่งมีอายุความ 20 ปี

          ขณะที่มีรายงานว่า ในช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นบ้านพักของผู้ต้องหาทั้งหมดแล้ว โดย พลตำรวจเอก สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ พลตำรวจเอก สุชาติ ธีระสวัสดิ์ พิจารณาในส่วนของคดีอาญา ส่วน พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ ดูในด้านของทางวินัย เบื้องต้นให้ออกจากราชการไว้ก่อน รวมทั้งอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน กรณีอดีตแฟนดาราสาว ของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ได้โพสต์ข้อความว่าผู้ต้องหาได้ฝากเงินไว้ที่ตัวแทนถือหลักทรัพย์ หรือ นอมินี จำนวน 230 ล้านบาท รวมถึงรถยนต์หรู

          ส่วนอดีตผู้กำกับคนดังกล่าวยังอยู่ในเมืองไทยหรือไม่นั้น พนักงานสอบสวน คงทราบดี ส่วนหากเจ้าหน้าที่ขยายผลแล้วพบว่าผู้อื่นเกี่ยวข้องก็จะมีการออกหมายจับเพิ่มเติมต่อไป รวมถึงกระแสข่าวว่า ครอบครัวของผู้ต้องหารับเงิน จากอดีตผู้กำกับคนดังกล่าวจำนวน 5 ล้านบาทนั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ว่าเข้าข่ายความผิดหรือไม่ แต่ยืนยันได้ว่า หากมีการจ่ายเงินจริงผู้ที่จ่ายเงินยิ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐด้วย มีความผิดอย่างแน่นอน ส่วนผู้รับนั้น ต้องพิจารณาก่อน