การแพร่ระบาดโควิด-19สายพันธุ์เดลตาในประเทศไทย ในการแถลงข่าวเฝ้าระวังและการกลายพันธุ์ของเชื้อก่อโรคโควิด 19 ประเด็น “พบสายพันธุ์ย่อยเดลตาในประเทศไทย” ศ.เกียรติคุณ ดร.วสันต์ จันทราทิตย์ หัวหน้าศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์รพ.รามาธิบดี ม.มหิดล กล่าวว่า จากข้อมูลในองค์กร GISIAD ที่เป็นฐานข้อมูลประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยที่รายงานการถอดรหัสพันธุกรรม ซึ่งปัจจุบันมีประมาณ 3 ล้านตัวอย่าง
โดยจะมีการแบ่งเป็นสายพันธุ์ต่างๆ และศึกษาวงวานวิวัฒนาการที่มีการแตกกิ่งก้านสาขาออกมา ซึ่งในส่วนของสายพันธุ์เดลตานั้น จะเห็นได้ว่ามีการกลายพันธุ์มากถึง 60 ตำแหน่งเมื่อเทียบกับสายพันธุ์ดั้งเดิมอู่ฮั่น การที่มีกลายพันธุ์จำนวนมาก บ่งชี้ว่ามีการแพร่ระหว่างคนสู่คนมาก
กรณีสายพันธุ์เดลตา B.1.617.2 มีสายพันธุ์ย่อยที่เรียกว่า เอวาย (AY) ตั้งแต่จุด 1 ถึง จุด 22 และมีสายพันธุ์ย่อยออกไปอีก 27 เนื่องจากสายพันธุ์ย่อย AY บางจุดมีการแตกย่อยออกอีก และข้อมูลของประเทศไทยสายพันธุ์ที่ระบาดหลักคือเดลตา ที่พบคือ
- AY.4 พบมิ.ย.-ส.ค. ในปทุมธานี 4 คน บุรีรัมย์ กำแพงเพชร เชียงใหม่ สมุทรปราการ ชลบุรี 1 คน
- AY.6 พบก.ค. ในกทม. 1 คน
- AY.10 พบก.ค. ในกทม.1 คน
- AY.12 พบก.ค.-ส.ค. ในกทม. (พญาไท) 1 คน สุราษฎร์ฯ 2 คน
หลังจากที่ตรวจพบ จะต้องรอ2-3เดือนถึงจะเห็นได้ว่า ความรุนแรงจะมากกว่าเดิมไหม ต้องเอาข้อมูลทางคลินิกมาประกอบกับจีโนม ถึงจะทราบได้ว่า จะรุนแรงกว่าเดิมหรือไม่ ประโยชน์ในการถอดรหัสพันธุกรรมคือต้องเอาสายพันธุ์ใหม่ที่พบไปทดลองกับวัคซีนด้วยว่าจะใช้ได้หรือไม่
แต่ท้ายที่สุดแล้วก็จะเหมือนไวรัสที่ระบาดในอดีต หากเรามีภูมิคุ้มกันหมู่ มันก็จะค่อยๆอยู่ด้วยกันได้ เหมือนไข้หวัดใหญ่ ที่เราต้องฉีดวัคซีนทุกปี ไม่ให้ผู้ป่วยหนักและเสียชีวิตมากจนเกินไป
พร้อมยืนยันว่า สายพันธุ์ย่อยของเดลตา คือ AY.4 / .6 / .10 / .12 ยังไม่ใช่สายพันธุ์ไทย เพราะต้องพบหลัก 80-90%ขึ้นไป และพบได้เฉพาะในประเทศไทย ซึ่งเรายังไม่เจอในลักษณะนั้น และยังไม่มีอะไรบ่งชื้ว่า ดื้อวัคซีน แต่สายพันธุ์ย่อยนี้ยังไม่มีผลกระทบอะไรมากมาย ซึ่งกำลังจับตาดูอยู่ ขอให้ประชาชนสบายใจได้
ส่วนที่ระบาดในไทยอยู่แล้วจะมาจากไหนต้องพิจารณาอีกครั้ง เมื่อพบว่า เป็นลูกหลานของสายพันธุ์ในประเทศไทยจึงต้องมีการควบคุมดูแลอีกรูปแบบหนึ่ง เพราะมีสายพันธุ์ลักษณะแบบนี้ที่เพิ่มจำนวนในท้องถิ่นแล้ว ถ้าขยายตัวมากๆจะเกิดอะไรขึ้น เป็นสิ่งที่ต้องเฝ้าระวัง อย่างไรก็ตาม AY ทั้ง 4 ตัวนี้มีรายงานพบในต่างประเทศด้วย และยังไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์และคลินิกมากพอที่จะบอกว่า ดื้อต่อวัคซีนมากกว่าหรือน้อยกว่าเดลตาสายพันธุ์หลัก อาจจะมีข้อมูลตามมาทีหลังเมื่อมีข้อมูลมากขึ้น
ด้าน นพ.สุรัคเมธ มหาศิริมงคล ผอ.สถาบันชีววิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า สายพันธุ์เดลตามีการอัปเดตตลอด และล่าสุดข้อมูลวันที่ 9 ส.ค.2564 ทำให้ทราบว่ามีสายพันธุ์ย่อย AY.1 ไปจนถึง.25 ทุกตัวของสายพันธุ์เดลตายังมีคุณสมบัติแพร่กระจายเร็ว อาการรุนแรง อย่างไรก็ตาม สำหรับเชื้อเดลตาพลัสที่อินเดียเคยรายงานนั้น คือ K417N ในไทยยังไม่เจอ
ทั้งนี้ เดลตา สายพันธุ์ย่อย ที่พบในต่างประเทศดังนี้
-AY.4 มีรายงานมากที่สุด คือ ประเทศอังกฤษ 67 %
-AY.6 รายงานมากที่สุด คือ อังกฤษ 79 %
AY.10 ประเทศที่รายงานมากที่สุดคือ อังกฤษ 71 % และ
-AY.12 ประเทศที่รายงานมากที่สุด คือ เดนมาร์ก และอังกฤษ ประเทศละ 11 %
#สายพันธุ์ย่อยเดลตา
#โควิด19