+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ระบุถึงความคืบหน้าในการเปิดซองประมูลราคาข้าวสารขาว และข้าวสารหอมมะลิ จากโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล เมื่อวันที่ 29ม.ค.ว่าการประมูลข้าวล็อตนี้มีบริษัทรวมประมูลไปได้กว่า9แสนตัน แต่ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวนว่ามี บริษัทไหนเป็นนอมีนี ที่สร้างปัญหาไว้เก่าในการระบายข้าวหรือไม่ หากพบว่า มีก็ต้องประมูลใหม่ซึ่งข้าวที่จะประมูลใหม่ มีกว่า4แสนตัน
+++พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานประชุมรับฟังความคิดเห็นการดำเนินโครงการบริหารจัดการน้ำ หลังจากเสร็จสิ้นการประชุม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ แถลงว่า ที่ประชุมได้พิจารณาร่างยุทธศาสตร์และบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ปี 2558-2569 6 ยุทธศาสตร์ ประกอบด้วยการฟื้นฟูป่าต้นน้ำป้องกันการกัดเซาะ การแก้ไขขาดแคลนน้ำเพื่อการผลิต (เกษตร-อุตสากรรม) การป้องกันและบรรทาอุทกภัย การจัดการคุณภาพน้ำ การแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค และการบริหารจัดการ ร่างยุทธศาตร์ใกล้เสร็จสิ้นแล้ว คาดว่าไม่เกิน 1 เดือน แผนยุทธศาสตร์จะเสร็จสมบูรณ์ เพื่อนำร่างฯดังกล่าวมาเป็นโรดแมปในการบริหารทรัพยากรต่อไป นอกจากนี้นายกฯ สั่งการว่าภายในปีนี้ต้องบริหารจัดการ เรื่องการลดพื้นที่น้ำท่วมและภัยแล้งซ้ำซากด้วย ส่วนกรมทรัพยากรน้ำจะดำเนินการเรื่องการบริหารจัดการน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคในท้องที่ที่ยังขาดแคลนกว่า 7 พันแห่ง ให้แล้วเสร็จภายในปี 2560 เพิ่มพื้นที่การทำชลประทานและการหาแหล่งน้ำขนาดใหม่ เช่น บึงบอระเพ็ด เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการรองรับน้ำและพัฒนาแหล่งน้ำชุมชน
+++ศาล นัดสอบคำให้การจำเลยคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 1 เป็นโจทก์ฟ้อง พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อายุ 58 ปี อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) นางสวงค์ หรือสวงศ์ มุ่งเที่ยง อายุ 54 ปี และนายเริงศักดิ์ ศักดิ์ณรงค์เดช อายุ 57 ปี สามีภรรยา ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-3 ตามลำดับ ฐานกระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 48, 73 และ 74 คดีนี้โจทก์ฟ้องและนำสืบว่า เมื่อระหว่างวันที่ 20 พ.ย. – 11 ธ.ค. 2557 ต่อเนื่องกัน จำเลยทั้งสามได้ร่วมกันมีไม้ชิงชันแปรรูป จำนวน 68 แผ่น ซึ่งเป็นไม้หวงห้ามไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุเกิดที่ ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดด้วย โดยศาลได้อ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยทั้งสามฟังจนเข้าใจแล้วสอบถามว่าจะให้การรับสารภาพหรือปฏิเสธ ปรากฏว่า จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพไม่ขอต่อสู้คดี และไม่ต้องการทนายความ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พวกจำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง พิพากษา จำคุกจำเลยทั้งสามคนละ 1 ปี 6 เดือน คำรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยคนละ 9 เดือน ยึดไม้ชิงชันแปรรูป จำนวน 68 แผ่นด้วย ทั้งนี้ ศาลได้ออกหมายเบิกตัวจำเลยทั้งสามจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ และทัณฑสถานหญิงกลางบางเขน มาศาล โดย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ นายเริงศักดิ์ และนางสวงค์ สวมชุดนักโทษสีน้ำตาล เดินก้มหน้า มีสีหน้าเรียบเฉย
+++ความคืบหน้าการแสวงหาข้อเท็จจริง กรณีสำนักนายกรัฐมนตรี จัดซื้อไมโครโฟน ติดตั้งห้องประชุมคณะรัฐมนตรี นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า ยังมีความเห็นไม่ตรงกันอยู่ จึงให้ส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการกลั่นกรองเพื่อสรุปรายงานข้อเท็จจริงได้พิจารณาก่อนในวันที่ 18 ก.พ. และเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในสัปดาห์ถัดไป
+++ด้านนายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้แสวงหาข้อเท็จจริงครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว แต่ยังมีความเห็นไม่ตรงกันอยู่ ระหว่างฝ่ายเจ้าหน้าที่และฝ่ายผู้บังคับบัญชา บางฝ่ายมองว่ามีมูล บางฝ่ายมองว่าไม่มีมูล ดังนั้นจึงต้องรอข้อสรุปให้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง จึงจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นผู้ชี้ขาดว่า มีมูลพอที่จะตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน หรือว่าไม่มีมูลจะได้ตีตกไปได้
+++กรณี น.ส.ชุติมา กันทาง อายุ 28 ปี เมาขับรถเก๋งไปเจอด่านตำรวจบางโพงพาง ย่านถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แล้วไม่ยอมเป่าแอลกอฮอล์ นั่งยื้ออยู่ในรถนาน กว่า 4 ชั่วโมงจนตำรวจต้องลากรถไปที่โรงพัก กระทั่งรุ่งเช้าจึงยอมลงมาจากรถ อ้างว่าแต่งตัวไม่เรียบร้อย เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ขับรถยนต์ขณะมึนเมาสุราหรือเมาอย่างอื่น ขับรถยนต์ขณะหย่อนความสามารถที่จะขับ ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานในการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ไม่แสดงใบอนุญาตขับขี่ และ ไม่แสดงบัตรประจำตัวประชาชน ก่อนจะให้ประกันตัวกลับบ้านไปในวงเงิน 20,000 บาท น.ส.ชุติมา เดินทางมาที่ศาลแขวงพระนครใต้ เพื่อมาฟังคำพิจารณาต่อศาลหลังจากที่พนักงานสอบสวนสน.บางโพงพางส่งสำนวนคดีความผิดเรื่องดังกล่าวมาเพื่อให้ศาลตัดสิน ศาล มีคำพิพากษาว่ามีความผิดฐาน เมาแล้วขับ ให้ลงโทษจำคุก 3 เดือน แต่รอลงอาญาไว้ก่อนและให้ปรับเป็นจำนวนเงิน 8,500 บาท และให้จำเลยไปรายงานตัวต่อสถานคุมประพฤติสาขาศาลแขวงพระนครใต้ ถ.พระราม 3 เป็นเวลา 1 ปี โดยต้องไปรายงานตัวทุกๆ 3 เดือน ต่อครั้ง เป็นจำนวน 4 ครั้ง และระงับการใช้ใบขับขี่เป็นเวลา 6 เดือน นอกจากนี้ศาลยังให้ทำหน้าที่บำเพ็ญประโยชน์อีก 2 ครั้ง
+++ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดที่ 1,613.40 จุด เพิ่มขึ้น 8.29 จุด มูลค่าการซื้อขาย 54,413.52 ล้านบาท นักวิเคราะห์ ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้คล้ายตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่แกว่งแคบทั้งแดนบวกและลบ ภายหลังจากที่การเจรจาหนี้ของกรีซกับ รมว.คลังยูโรโซนเมื่อคืนนี้ ยังไม่มีข้อสรุป และวันนี้ก็จะมีประชุมสุดยอดผู้นำยุโรป แต่ยังต้องรอการประชุม รมว.คลังยูโรโซนประชุมกันเรื่องหนี้ของกรีซอีกรอบวันที่ 16 กุมภาพันธ์นี้ อย่างไรก็ตาม น่าจะได้ข้อสรุปก่อนที่มาตรการปัจจุบันจะหมดอายุวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้
+++นอกจากนี้ ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นไปไม่ไกลก็ปรับตัวลงมาอีก เนื่องจากสตอกน้ำมันของสหรัฐฯ ยังสูง อย่างไรก็ตาม ตลาดฯ ยังมีการเล่นเก็งผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนและปันผลที่ทยอยประกาศออกมา อีกทั้งยังมีความคาดหวังสภาพคล่องที่จะเพิ่มเข้ามาจากที่ทางธนาคารกลางยุโรป (ECB) ทำ QE ช่วงเดือนมีนาคมนี้ ดังนั้น นักลงทุนจึงเลือกที่จะ Wait & See ไปก่อน เพื่อรอความชัดเจนหลายเรื่อง ส่วนแนวโน้มการลงทุนวันพรุ่งนี้ (13 ก.พ.) คาดว่าจะแกว่งตัวจากการเก็งงบฯ และปันผล รวมทั้งคาดหวังสภาพคล่องเพิ่มจาก ECB ที่เข้ามาทำ QE ในเดือนมีนาคมนี้.
+++ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เปิดเผยว่า ที่ประชุมสุดยอดเรื่องยูเครนบรรลุข้อตกลงยุติการสู้รบในภาคตะวันออกของยูเครนได้แล้ว โดยจะเริ่มหยุดยิงตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ ประธานาธิบดีปูติน เปิดเผยหลังเสร็จสิ้นการหารือนานเกือบ 16 ชั่วโมงที่เริ่มตั้งแต่เย็นวานนี้กับประธานาธิบดีฝรั่งเศส เยอรมนีและยูเครนที่กรุงมินสก์ของเบลารุสว่า ที่ประชุมตกลงในเรื่องหลัก ๆ ได้แล้วเรื่องถอนอาวุธหนักออกจากแนวรบในยูเครน และจะเริ่มหยุดยิงตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ แต่ทางการยูเครน ยังคงยืนกรานไม่ยอมเจรจาโดยตรงกับกลุ่มแยกดินแดน
+++พนักงานกลุ่มท่าอากาศยานปารีส ของฝรั่งเศส ผละงาน 24 ชั่วโมงเริ่มตั้งแต่เวลา 11.00 น.วันนี้ตามเวลามาตรฐานสากล ตรงกับเวลา 18.00 น.วันนี้ตามเวลาในไทยเพื่อประท้วงนโยบายไม่ขึ้นเงินเดือน คาดว่าจะทำให้เที่ยวบินล่าช้าจำนวนมาก การผละงานจะทำให้เที่ยวบินส่วนใหญ่ที่ท่าอากาศยานรัวซี-ชาร์ลส์เดอโกลล่าช้า และจะทำให้ต้องเลื่อนหรือยกเลิกเที่ยวบินร้อยละ 20 แต่จะไม่กระทบท่าอากาศยานอีก 2 แห่งคือท่าอากาศยานออร์ลี และท่าอากาศยานเลอบูเชต์ พนักงานไม่พอใจที่บริษัทไม่ขึ้นเงินเดือนให้ปีนี้ ทั้งที่บริษัทมีฐานะการเงินดี สหภาพแรงงาน เปิดเผยว่า บริษัทจะแถลงผลการดำเนินงานประจำปีในสัปดาห์หน้า และผลกำไรสุทธิที่ไม่ต่ำกว่า 358 ล้านยูโร (ราว 13,250 ล้านบาท) บริษัทจะแบ่งกำไรเกือบร้อยละ 60 ให้แก่ผู้ถือหุ้น สหภาพจึงอยากให้แบ่งกำไรเหล่านี้ให้แก่พนักงานด้วย ด้านบริษัท เปิดเผยว่า ได้เสนอเจรจากับสหภาพแต่ถูกบอกปัด การผละงานนี้มีขึ้นหลังจากที่นักบินสายการบินแอร์ฟรานซ์ของฝรั่งเศสหยุดงาน 14 วัน สร้างความเสียหายให้แก่สายการบินถึง 500 ล้านยูโร (ราว 18,500 ล้านบาท)