นายกฯออสเตรเลีย เตรียมปรับยุทธศาสตร์สู้โควิด ไม่เน้นผู้ป่วยเหลือ 0 แต่ต้องอยู่กับโควิดให้ได้

23 สิงหาคม 2564, 09:36น.


          นายกรัฐมนตรี สกอตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลีย ยอมรับว่า ยังต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโควิด-19 แต่อาจจะใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกไม่นาน ทางการกำลังเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนทางด้านสาธารณสุขและเรื่องรายได้



          รัฐบาลออสเตรเลีย ตั้งใจจะเปลี่ยนจุดมุ่งหมายจากการลดจำนวนผู้ป่วยให้เหลือศูนย์ เป็นการดูจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 อาการหนัก และต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล



          นายกฯ ออสเตรเลีย แสดงความเชื่อมั่นว่า ตอนนี้ระบบสาธารณสุขของประเทศแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรับมือกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นได้ และเมื่อเร่งฉีดวัคซีนได้ร้อยละ 70 และร้อยละ 80 ของจำนวนประชากร จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น แต่เราก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น เมื่อเริ่มเปิดประเทศในเร็วๆนี้



         บทความของนายมอร์ริสัน ได้รับการเผยแพร่ออกมาในขณะที่ นครซิดนีย์ เมืองใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย รายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 อีก 830 คน ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาจนถึงเมื่อวันอาทิตย์ 22 ส.ค.64 ซึ่งเป็นยอดผู้ติดเชื้อรายวันที่สูงสุดที่นับตั้งแต่การระบาดเริ่มขึ้น แม้ว่าซิดนีย์จะอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์มาตั้งแต่ปลายเดือนมิ.ย.64



         ออสเตรเลียเป็นหนึ่งในประเทศที่ใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 โดยมีเป้าหมายกำจัดไวรัส ให้หมดไปจากประเทศ เช่นเดียวกับ จีน และนิวซีแลนด์ แต่มาตรการดังกล่าวดูเหมือนจะเริ่มใช้ไม่ได้ผล เมืองใหญ่อย่าง ซิดนีย์, เมลเบิร์น และกรุงแคนเบอร์รา ยังประสบปัญหาในการควบคุมการแพร่กระจายของไวรัสสายพันธุ์เดลตา ซึ่งติดต่อง่ายว่าโควิด-19 สายพันธุ์ดั้งเดิม



         เมื่อวันเสาร์ 21 ส.ค.64 ชาวออสเตรเลียหลายพันคนออกมาเดินขบวนประท้วงตามท้องถนนในเมืองเบลเบิร์นและนครซิดนีย์ เพื่อประท้วงต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์ที่บังคับใช้มานาน ทำให้มีประชาชนถูกจับกุมตัวหลายร้อยคน ขณะที่ตำรวจอย่างน้อย 7 นาย ได้รับบาดเจ็บระหว่างการปะทะกันของทั้งสองฝ่าย



แฟ้มภาพ



#ออสเตรเลีย



#โควิด19



#ประท้วงต้านล็อกดาวน์



 

ข่าวทั้งหมด

X