ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยถึงแนวโน้มสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19และตัวเลขผู้เสียชีวิตว่า ส่วนตัวเชื่อว่าภายในกลางเดือนก.ย.64 น่าจะเห็นตัวเลขขาลง ค่อนข้างแน่
แนวทางที่ทำให้คาดการณ์ว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้น
-ผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่วันละ 19,000-20,000 คน แต่ที่เห็นชัด คือ ในช่วง2 สัปดาห์ ไม่เห็นตัวเลขอัตราการติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มสูงขึ้นมากๆ
-ตัวเลขผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นเป็นวันละ 300 ราย เมื่อสอบถามข้อมูล พบว่า เป็นตัวเลขที่รายงานเข้าระบบช้า แต่ตอนนี้เข้าใจว่ามีการเคลียร์ตัวเลขแล้ว ดังนั้น ตอนนี้ผู้เสียชีวิตรายใหม่น่าจะอยู่ที่วันละ 200 กว่าราย ตัวเลขเหล่านี้หากดูวันต่อวัน อาจไม่ชัด ต้องดูตัวเลข 7 วัน แล้วเฉลี่ยกัน เราจะเห็นว่า เส้นความชันเริ่มน้อยลงกว่าเดิมมาก ใกล้เข้าสู่ระนาบเส้นตรง และเมื่อถึงจุดหนึ่ง กราฟก็จะเริ่มกดหัวลงเป็นขาลง
สิ่งที่ทำให้กราฟลดลงเกิดจาก 3 ปัจจัย ได้แก่
1.การฉีดวัคซีนป้องกัน ขณะนี้ ไทย ฉีดวัคซีนแล้วประมาณร้อยละ 28 ของจำนวนประชากร ถือว่าทำได้ดี บางวันฉีดสูงถึง 600,000 โดส ต้องมีระบบการบริหารจัดการที่ดี และประชาชนต้องร่วมมือกันไปฉีดวัคซีน
2.มาตรการสังคม การปกครอง
3.มาตรการบุคคล ก็เป็นส่วนสำคัญในการลดอัตราการแพร่ระบาดของเชื้อ
เมื่อแนวโน้มดีขึ้น อาจจะมีแนวทางการผ่อนคลายมาตรการ ซึ่งต้องดูจากข้อมูลจริงและอัตราคนที่ได้รับการฉีดวัคซีน หากจะเกิดการผ่อนคลายขึ้นในประเทศไทย ก็น่าจะมีการเสนอมาตรการให้ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 หรือ ศบค. พิจารณา ซึ่งในอีก 2-3 วันนี้ ต้องหารือกันเลย โดยจะมีเวลาอีก 1 สัปดาห์ เพื่อดูตัวเลข หากส่งสัญญาณดีขึ้น ก็อาจมีการพิจารณา แต่ต้องตกลงเงื่อนไขกับผู้ให้บริการ หากทุกคนร่วมมือกัน มีโอกาสเริ่มผ่อนคลาย
ส่วนรูปแบบการผ่อนคลาย ทุกประเทศคล้ายกันคือ ไม่ล็อกดาวน์ (Lockdown) ทั้งประเทศอีกแล้ว แต่จะล็อกตามเป้าหมาย (Target Lockdown) จังหวัดไหนทำได้ดีก็จะผ่อนคลาย แต่ต้องเลือกพื้นที่และกิจกรรมให้เหมาะสม มีการติดตามอย่างเข้มงวด
ในส่วนของไทย การแสดงหลักฐานฉีดวัคซีนในมือถือ หรือเป็นการให้สถานประกอบการบริการจุดตรวจโควิด-19 ชนิดAntigen Test Kit (ATK) ที่มีความไวและความจำเพาะดีๆ ไว้ให้ลูกค้า เพื่อตรวจก่อนเข้าใช้บริการ ก็จะเป็นมาตรการหนึ่งที่ดี
แฟ้มภาพ
#โควิด19
#ล็อกดาวน์
#ผ่อนคลายมาตรการ