ชาวออสเตรเลียหลายพันคนเข้าร่วมการประท้วงต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโรคโควิด-19 ขณะที่เมืองใหญ่หลายแห่งมีรายงานพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น
ในแถลงการณ์ของตำรวจรัฐวิกตอเรีย ระบุว่า มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 6 นาย และมีผู้ที่ถูกจับกุมฐานละเมิดกฎหมายด้านสุขภาพจำนวนมากกว่า 200 คน โดยมีอยู่ 3 คนถูกดำเนินคดีฐานทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ขณะที่สถานการณ์ของผู้ป่วยโควิด-19 มีผู้ป่วยรายใหม่ 61 คนเมื่อวันเสาร์ ทางการของรัฐจึงให้ขยายมาตรการล็อกดาวน์จากกรุงเมลเบิร์นไปทั่วทั้งรัฐ
ส่วนที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีการประท้วงที่ซิดนีย์ มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 1 คนและมีผู้ถูกจับกุม 47 คน หน่วยงานด้านสาธารณสุขรายงานว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในพื้นที่ 825 คนและมีผู้เสียชีวิต 3 ราย ซึ่งนางกลาดีส์ เบเรจิกเลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า โควิดสายพันธุ์เดลตามีความแตกต่างจากสายพันธุ์อื่น เพราะแม้ในช่วงล็อกดาวน์ที่มีความเข้มงวด ไวรัสก็ยังสามารถแพร่ระบาดได้ สิ่งที่เราต้องทำคือการปกป้องตัวเองและคนที่เรารักด้วยการอยู่บ้านและฉีดวัคซีน
รัฐนิวเซาท์เวลส์ต้องต่อสู้กับโควิดสายพันธุ์เดลตามานาน 2 เดือนแล้ว โดยนครซิดนีย์อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน และเมื่อวันศุกร์ (20 ส.ค.) มีการขยายมาตรการล็อกดาวน์ขยายออกไปจนถึงสิ้นเดือนกันยายน
นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลียกล่าวในวันนี้ (22 ส.ค.) ว่ามาตรการล็อกดาวน์มีความเหมาะสมแล้วในการต่อสู้กับการระบาดของโควิด-19 และจะใช้มาตรการนี้ไปจนกว่าประชากรอย่างน้อยร้อยละ 70 จะได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วน และจะเริ่มการผ่อนคลายเพื่อเปิดพรมแดนเมื่อจำนวนผู้ฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้วถึงระดับร้อยละ 80
....
#ออสเตรเลีย
#โควิด