สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ลงนาม"บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการกำกับดูแลการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม การป้องกันอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ การรักษาความมั่นคงภายในประเทศ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. เปิดเผยว่า การลงนามในวันนี้มีภารกิจเร่งด่วนเพื่อเป็นการลดขั้นตอนการติดต่อประสานงานในการส่งมอบข้อมูล โดยเฉพาะฐานข้อมูลผู้ใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่จากเดิมหากตำรวจต้องการข้อมูลจะต้องส่งเอกสารก่อน แต่หลังจากนี้หากเป็นกรณีเร่งด่วนสามารถส่งผ่านระบบคอมพิวเตอร์ได้ทันที ขณะเดียวกันยังร่วมกันผลักดันการลงทะเบียนซิมการ์ดแบบเติมเงิน เพื่อลดช่องทางการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในทางมิชอบ ทั้งการก่อเหตุอาชญากรรม และการสร้างความไม่สงบ ซึ่งปัจจุบันหลังจากเริ่มรณรงค์ มีประชาชนลงทะเบียนซิมการ์ดมากขึ้นวันละ 100,000 เลขหมาย โดยตั้งเป้าให้ถึงวันละ 500,000 เลขหมาย เพราะยังเหลือซิมการ์ดที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนอีก 80 ล้านเลขหมาย ที่จะโทรออกไม่ได้หลัง 31 กรกฎาคมนี้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ( ผบ.ตร.) กล่าวว่า การลงนามในวันนี้ถือเป็นการเพิ่มมิติในการป้องกันและปราบปรามเหตุอาชญากรรมตามหน้าที่ความรับผิดชอบ สิ่งสำคัญเป็นการลดระยะเวลาในการประสานขอข้อมูล ที่บางครั้งทำให้เสียโอกาสด้านการสืบสวนสอบสวนโดยเฉพาะคดีที่เกี่ยวกับความมั่นคง นอกจากนี้ สตช. และสำนักงาน กสทช. ได้มีความร่วมมือด้านการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจในการลงพื้นที่ร่วมกับสำนักงาน กสทช. ในการตรวจสอบและจับกุมการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ หรือวิทยุและโทรทัศน์ที่เผยแพร่เนื้อหาผิดกฏหมาย กระทบต่อความมั่นคง หรือมีเนื้อหาหมิ่นสถาบัน ซึ่งจะทำให้สะดวกยิ่งขึ้นต่อการดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ สตช. และสำนักงาน กสทช. เตรียมเปิดโครงการ"ตู้แดงออนไลน์" ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจในแต่ละท้องที่ ให้ประชาชนสามารถตรวจสอบสถานะบ้านของตัวเองผ่านเว็บไซต์ หรือดูภาพล่าสุดผ่านแอพลิเคชั่นไลน์ได้ทันที โดยขณะนี้ได้ว่าจ้างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นจำนวนเงิน 5 ล้านบาท ในการออกแบบโปรแกรม และคาดว่าจะให้บริการได้ในเดือนเมษายน
อภิสุข