สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในสิงคโปร์เริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น พบผู้ป่วยลดลง ขณะที่โครงการวัคซีนมีความคืบหน้า ร้อยละ 76 ของประชากรวัยผู้ใหญ่รับวัคซีนครบโดสแล้ว รัฐบาลตัดสินใจอนุญาตให้บริษัทเอกชนในสิงคโปร์อนุญาตให้คนงานกลับเข้าทำงานในสถานประกอบการต่างๆได้ตามปกติ เริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (19 สิงหาคมนี้)
ในระยะแรกของคลายล็อกดาวน์ สิงคโปร์แนะนำให้บริษัทเอกชนอนุญาตให้คนงานร้อยละ 50 กลับเข้ามาทำงานในสถานประกอบการต่างๆ ขณะที่พนักงานอีกร้อยละ 50 ให้ทำงานที่บ้านต่อไป เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาด ขณะที่บางบริษัท เช่น บริษัทสตาร์ฮับ (Starthub) จัดระบบการเข้างานในลักษณะผสมผสาน (hybrid)ระหว่างการทำงานที่บ้านกับที่สถานประกอบการ เช่น ให้คนงานเข้าทำงานในสถานประกอบการสัปดาห์ละ 2 วันและให้ทำงานที่บ้าน 3 วัน โดยโฆษกของบริษัทสตาร์ฮับระบุว่า วิธีการเช่นนี้จะเป็นรูปแบบการทำงานที่บริษัทจะใช้ในอนาคต เนื่องจากสร้าความยืดหยุ่นให้กับพนักงานในแง่ของการทำงานแบบเจอหน้ากัน มีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันกับการทำงานที่บ้านตามมาตรการเว้นระยะห่างเพื่อความปลอดภัย
บริษัท NEC ซึ่งเป็นบริษัทของญี่ปุ่นซึ่งมีสำนักงานอยู่ในสิงคโปร์ ระบุว่าในปัจจุบัน ร้อยละ 80 ของพนักงาน 700 คน ทำงานที่บ้าน แต่นับตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคมนี้ บริษัทจะใช้วิธีการทำงานแบบผสมผสม ให้ร้อยละ 50 ของคนงานทยอยกลับเข้ามาทำงานในบริษัท พร้อมทั้งให้ผู้จัดการธุรกิจแต่ละแผนกพิจารณว่าจะดำเนินการเรื่องนี้ให้มีประสิทธิภาพได้อย่างไร ขณะที่บริษัทมาสเตอร์การ์ด(Mastercard)แนะนำให้พนักงานรับวัคซีนก่อนกลับเข้าทำงานในบริษัท
ในปัจจุบัน สิงคโปร์มีผู้ป่วยสะสม 66,281 คน เสียชีวิต 45 ราย
Cr: cna