ศบค.แจงตัวเลขตายที่พุ่งสูง เป็นตัวเลขสะสม ย้ำทุกหน่วยงานต้องเตรียม Company Isolation

18 สิงหาคม 2564, 13:42น.


          พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 หรือ ศบค. ชี้แจงกรณีตัวเลขการเสียชีวิตวันนี้ จำนวน  312 ราย เป็นตัวเลขมากที่สุดว่า เป็นการรายงานตัวเลขสะสมของหลายวัน เช่น จ.ลพบุรี จำนวนผู้เสียชีวิต 25 ราย เป็นตัวเลขสะสมของหลายวันที่ผ่านมาและรายงานมาในวันเดียว  หรือ จ.ชลบุรี  มีจำนวนผู้เสียชีวิต 20 ราย เนื่องจาก ต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบข้อมูล และบางรายเมื่อเสียชีวิตก็ยังไม่ได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทำให้การรายงานทบมาเป็นวันนี้วันเดียว 


         ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีการวิเคราะห์กราฟ แสดงให้เห็นว่า ตัวเลขการเสียชีวิต ในช่วงเดือน ก.ค.ถึงวันที่ 14 ส.ค. 64 มีแนวโน้มชะลอตัวลง มีความเป็นไปได้ว่า เป็นผลจากการฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป กลุ่มเสี่ยง 7 โรคเรื้อรัง 


          สำหรับตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิดจำนวน 312 ราย ถือเป็นยอดผู้เสียชีวิตสูงสุดประจำวันนับตั้งแต่มีการระบาดของโควิดเมื่อปี 2563 ในกทม. 78 รายปริมณฑลอีก 70 รายที่เหลืออยู่ในในหลายๆจังหวัด ในจำนวนนี้เป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิง แบ่งเป็น ชาย 174 คน หญิง 138 คน ช่วงอายุ 65 ปีขึ้นไป

          ทั้งนี้ จำนวนผู้เสียชีวิต ตัวเลขผู้สูงอายุมีอายุ 60 ปีขึ้นไปมีถึง 194 ราย คิดเป็นร้อยละ 62 และอายุน้อยกว่า 60 ปีมีโรคเรื้อรัง 77 คน คิดเป็นร้อยละ 24 ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 41 คน คิดเป็นร้อยละ13 ในส่วนนี้มีอายุ 28 ถึง 59 ปีโดยในจำนวนผู้เสียชีวิตวันนี้ มีบุคลากรด้านหน้าเสียชีวิต1 ราย เจ้าหน้าที่เวรเปล โรงพยาบาลแม่สอด มีโรคประจำตัว ซึ่งยังไม่ได้รับวัคซีน

          สำหรับ ปัจจัยเสี่ยงนำไปสู่การเสียชีวิต คือ มีโรคประจำตัว ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคไต อ้วนติดเตียง โดยพบเสียชีวิตที่บ้าน 3 รายและมีประวัติเสี่ยงไปพื้นที่ระบาด 139 คน ติดมาจากคนรู้จัก 90 คน และ ติดจากคนในครอบครัว 47 คนในจำนวนผู้เสียชีวิต 312 คน มี 147 คน ยังไม่ได้รับวัคซีนคิดเป็นร้อยละ 47 โดยได้รับวัคซีนโควิด 1 เข็ม มี 33 คน มี 132 คนที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล คิดเป็นร้อยละ 42 โดยไม่มีรายได้เลยที่ได้รับวัคซีนโควิดครบ 2 เข็ม โดยวัคซีนทุกชนิดที่มีอยู่ในขณะนี้ หลังจากฉีดวัคซีนไปแล้ว มีโอกาสที่จะติดเชื้อได้ เพราะยังไม่สามารถป้องกันเชื้อได้ 100%

          สำหรับ ตัวเลขผู้เสียชีวิตย้อนหลัง 7 วันดังนี้

          วันที่ 12ส.ค.2564ติดเชื้อ 22,782เสียชีวิต 147(นิวไฮ)

          วันที่ 13ส.ค.2564ติดเชื้อ 23,418เสียชีวิต 184(นิวไฮ)

          วันที่ 14 ส.ค.2564 ติดเชื้อ 22,086 เสียชีวิต 217 ราย

          วันที่ 15ส.ค.2564 ติดเชื้อ 21,882 เสียชีวิต 209 ราย 

          วันที่ 16ส.ค.2564 ติดเชื้อ 21,157 เสียชีวิต 182 ราย

          วันที่ 17ส.ค.2564 ติดเชื้อ 20,108 เสียชีวิต 239  ราย

          วันที่ 18 ส.ค.2534 ติดเชื้อ 20,515 เสียชีวิต 312 ราย


           นอกจากนั้น ที่ประชุมย้ำนโยบายสำคัญหลายเรื่อง



-ทุกจังหวัด ทุกหน่วยงาน ต้องมีการค้นหาเชิงรุกในชุมชน เพื่อลดอัตราการเสียชีวิต ลดการป่วยหนัก เช่น ในกรุงเทพมหานคร มีการตรวจภายในโรงงาน สถานประกอบกิจการ ด้วยการใช้ชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK)  ให้ทีมเคลื่อนที่เร็ว ลงพื้นที่ไปตรวจคัดกรอง  


-ขอให้สถานที่ทำงาน เตรียมความพร้อมจัดเตรียมสถานที่ให้พร้อม เป็นการกักตัวในสถานที่ทำงาน หรือ บริษัท Company Isolation ซึ่งรูปแบบ คล้ายกับการกักตัวในชุมชน Community Isolation  เป็นการเตรียมจัดพื้นที่ให้สามารถพักค้างได้ ซึ่งแต่ละพื้นที่ต้องชี้แจงทำความเข้าใจกับชุมชนให้เข้าใจ แนวทางนี้ขอให้เตรียมไว้เผื่อว่าเมื่อพบผู้ติดเชื้อแล้วจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนได้อย่างถูกต้อง ส่วนการดูแลเรื่องอาการของผู้ป่วย จะต้องมีภาครัฐ และ โรงพยาบาลพี่เลี้ยง มาช่วยดูแล 


 




#ศบค


#โควิด19



         ที่ประชุมย้ำนโยบายสำคัญหลายเรื่อง


-ทุกจังหวัด ทุกหน่วยงาน ต้องมีการค้นหาเชิงรุกในชุมชน เพื่อลดอัตราการเสียชีวิต ลดการป่วยหนัก เช่น ในกรุงเทพมหานคร มีการตรวจภายในโรงงาน สถานประกอบกิจการ ด้วยการใช้ชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK)  ให้ทีมเคลื่อนที่เร็ว ลงพื้นที่ไปตรวจคัดกรอง  


-ขอให้สถานที่ทำงาน เตรียมความพร้อมจัดเตรียมสถานที่ให้พร้อม เป็นการกักตัวในสถานที่ทำงาน หรือ บริษัท Company Isolation ซึ่งรูปแบบ คล้ายกับการกักตัวในชุมชน Community Isolation  เป็นการเตรียมจัดพื้นที่ให้สามารถพักค้างได้ ซึ่งแต่ละพื้นที่ต้องชี้แจงทำความเข้าใจกับชุมชนให้เข้าใจ แนวทางนี้ขอให้เตรียมไว้เผื่อว่าเมื่อพบผู้ติดเชื้อแล้วจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนได้อย่างถูกต้อง ส่วนการดูแลเรื่องอาการของผู้ป่วย จะต้องมีภาครัฐ และ โรงพยาบาลพี่เลี้ยง มาช่วยดูแล 

ข่าวทั้งหมด

X