หลังความวิตกของกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ จากการให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี ที่ประเทศญี่ปุ่นถึงการรัฐประหารในอนาคต พล.ต.สรรเสริญ แก้วกําเนิด รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า อาจจะเกิดจากความเข้าใจผิด เพราะหากติดตามการชี้แจงนายกรัฐมนตรี จะพบว่า ไม่ได้หมายความอย่างที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯเข้าใจ เพียงแค่นายกรัฐมนตรีต้องการสื่อว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยมีความขัดแย้งของกลุ่มการเมืองมาตลอด จนทำให้รัฐบาลที่ผ่านมาไม่สามารถใช้อำนาจการบริหารประเทศได้ จึงจำเป็นที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ คสช. และกองทัพ ต้องเข้ามาแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง และดำเนินการปฏิรูปให้ชัดเจน เพื่อให้ประเทศมีความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ยืนยันว่ารัฐบาลพร้อมรับฟังความคิดเห็นที่เสนอเข้ามา โดยไม่ใช้อำนาจอย่างเบ็ดเสร็จในการบริหารประเทศ โดยสรุป คือ นายกรัฐมนตรี ไม่ต้องการให้ประเทศกลับเข้าสู่วงจรที่ผ่านมา และขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันเพื่อเดินหน้าตามโรดแมปที่คสช. และรัฐบาลได้กำหนดไว้
ส่วนที่สหรัฐฯเรียกร้องให้ประเทศไทยเข้าสู่ประชาธิปไตยนั้น พล.ต.สรรเสริญ ระบุว่า น่าจะเป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นที่เป็นไปตามบทบาทและหน้าที่ของประเทศที่ปกครองโดยระบบประชาธิปไตย ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรก ที่ผ่านมาสหรัฐฯได้แสดงคิดเห็นถึงหลายๆประเทศเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยก็มีจุดยืน รวมถึงไม่มีความขัดแย้ง และพร้อมที่จะรักษาความสัมพันธภาพกับประเทศเพื่อนบ้านมาโดยตลอด
สำหรับ กรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะขอลี้ภัยทางการเมือง พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า เรื่องนี้ขอให้ฝ่ายความมั่นคงเป็นผู้ตอบ เพราะจากที่ตรวจสอบขณะนี้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังพักอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ และยังไม่มีรายงานว่าจะเดินทางออกนอกประเทศแต่อย่างใด ส่วนคดีความต่างๆของน.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นคดีทางอาญา และไม่เกี่ยวกับคดีทางการเมือง ซึ่งขณะนี้ก็อยู่ในขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม