นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรีถึงเหตุผลที่รัฐบาลสั่งซื้อวัคซีนซิโนแวคเพิ่มอีก 12 ล้านโดส ว่า มีการวิจัยและการเก็บข้อมูลมารองรับ เพราะตั้งแต่องค์การอนามัยโลก (WHO) มีการอนุมัติให้มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แบบไขว้ชนิดได้ ซึ่งไทยเริ่มฉีดวัคซีนแบบไขว้และเก็บข้อมูลมา
ทั้งนี้ กรณีฉีดซิโนแวค 2 เข็ม จะมีภูมิต่ำกว่าการฉีดแอสตราเซเนกา 2 เข็ม แต่ข้อมูลที่สำคัญคือ ผู้ที่ได้รับซิโนแวคเป็นเข็มที่ 1 และแอสตราเซเนกาเข็มที่ 2 จะทำให้ภูมิขึ้นสูงกว่าการฉีดซิโนแวค 2 เข็มถึง 4 เท่า จึงเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ประเทศไทยเริ่มฉีดไขว้สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีน และสามารถป้องกันสายพันธุ์เดลตาได้ในส่วนหนึ่งด้วย
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่กำลังรอวัคซีน mRNA ที่จะเข้ามาช่วงประมาณปลาย ก.ย. ถึงต้น ต.ค. จะเป็นการฉีดในลักษณะไขว้เช่นนี้ไปก่อน คือ ซิโนแวค เข็มที่ 1 และแอสตราเซเนกา เข็มที่ 2
นอกจากนั้น ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ยังรับทราบ การจัดสั่งซื้อวัคซีนไฟเซอร์เพิ่มเติมอีก 10 ล้านโดส พร้อมมอบให้กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ลงนามกับผู้แทนบริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัดและไบออนเทค จัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์ซึ่งเป็นวัคซีนชนิด mRNA เพิ่มจำนวนเป็น 30 ล้านโดส ซึ่งจะเริ่มทยอยจัดส่งในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้