คืบหน้าสถานการณ์ในอัฟกานิสถาน หลังกลุ่มตอลีบันบุกยึดครองทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงคาบูล ขับไล่รัฐบาลปัจจุบันของประธานาธิบดีอัชราฟ กานีของอัฟกานิสถาน พ้นทำเนียบ ประกาศชัยชนะในการสู้รบกับกองกำลังต่างชาติ ที่มีสหรัฐฯเป็นแกนนำออกจากแผ่นดินอัฟกานิสถานได้สำเร็จ นางลิซ เชนีย์ ส.ส.พรรครีพับลิกันของสหรัฐฯ วัย 55 ปี จากรัฐไวโอมิง ทวีตข้อความตำหนิทั้งผู้นำคนปัจจุบันคือประธานาธิบดีโจ ไบเดนและอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ว่าดำเนินนโยบายการต่างประเทศผิดพลาดร้ายแรงทั้งคู่ ทำให้สหรัฐฯแพ้สงครามในอัฟกานิสถาน
นางเชนีย์ ระบุว่าความหายนะจากนโยบายการต่างประเทศที่ผิดพลาดในยุคนายทรัมป์และนายไบเดน เริ่มจากการที่รัฐบาลของนายทรัมป์ยอมเจรจากับผู้ก่อการร้ายคือ กลุ่มตอลีบัน มองกลุ่มตอลีบันเหมือนหนึ่งว่าเป็นหุ้นส่วนที่จะช่วยสร้างสันติภาพในอัฟกานิสถาน เท่ากับยอมจำนนต่อฝ่ายข้าศึก ต่อมาในยุครัฐบาลของนายไบเดน สั่งถอนกำลังทหารสหรัฐฯออกจากอัฟกานิสถาน เปิดทางให้กลุ่มตอลีบันเข้ามายึดครองอัฟกานิสถาน ซึ่งมีผลเท่ากับสหรัฐฯประกาศแพ้สงครามในอัฟกานิสถาน ในอนาคต ลูกหลานของชาวอเมริกันอาจจะต้องสูญเสียงบประมาณสูงกว่าเดิมอีกหลายเท่า เพื่อกลับมาทำสงครามรอบใหม่กับกลุ่มก่อการร้ายในอัฟกานิสถาน
สำหรับนางเชนีย์ เป็นลูกสาวของอดีตรองประธานาธิบดีดิค เชนีย์ ซึ่งเคยร่วมรัฐบาลอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุชในยุคที่สหรัฐฯบุกโค่นล้มรัฐบาลภายใต้การบริหารของกลุ่มตอลีบัน เพื่อปรามปรามกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ หลังเหตุการณ์วินาศกรรมสหรัฐฯ 11 กันยายน 2544
ขณะเดียวกัน กว่า 60 ประเทศ รวมทั้งสหรัฐฯ สหราชอาณาจักรและออสเตรเลียออกแถลงการณ์ร่วม ขอให้กลุ่มตอลีบันอนุญาตให้ชาวอัฟกันและชาวต่างชาติซึ่งประสงค์จะเดินทางออกจากอัฟกานิสถานสามารถเดินทางออกมาได้อย่างปลอดภัย โดยระบุว่า เป็นหน้าที่และความรับผิดชอบขององค์กรที่มีอำนาจบริหารประเทศจะต้องปกป้องชีวิตของประชาชนให้ปลอดภัย
Cr: bbc