วันนี้ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ยื่นหนังสือลาออก ขอกลับไปอยู่บ้านที่อ่างทอง ดูแลสุขภาพ

16 สิงหาคม 2564, 04:30น.


          วันนี้ นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร จะยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง จากปัญหาสุขภาพและจะกลับไปดูแลสุขภาพที่จ.อ่างทอง



          นายวีระศักดิ์ เปิดเผยข้อมูลผ่านทางเฟซบุ๊ก Sakravee Srisangdharma ระบุเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพ หลังจากหายป่วยจากโควิด-19 เรื่องการย้ายไปดำรงตำแหน่งในจังหวัดอื่น  รวมทั้งคำเตือนของหมอและลูกสาวที่ขอให้รักษาสุขภาพก่อนเกษียณในปีหน้า



ข้อความในเฟซบุ๊ก



"ยามดีใช้ ยามไข้รักษา



มีคนถามผมมาเยอะว่า ไม่ย้ายกับเขาเหรอ



ไม่เห็นมีชื่อในคำสั่ง หรือว่าผมเกษียณปีนี้



อยากย้ายเช่นกันครับ



เหตุผลของผมคือ สุขภาพผมไม่แข็งแรง ออกพื้นที่ได้ไม่มาก ไปมาไม่สะดวก หลายคนเป็นห่วง



ออกจากศิริราชแล้ว ร่างกายไม่เหมือนเดิมเลย โควิดทิ้งร่องรอยไว้เยอะมาก



เหนื่อย ไอ จาม มีน้ำมูก หอบง่าย



ล่าสุดมีอาการเกร็งด้านขวา ค่อนข้างมาก



คุณหมอบอกว่าผมเครียดหนัก พักผ่อนน้อย ต้องถนอมชีวิตมากกว่านี้



ขณะที่งานในสมุทรสาครไม่เครียดคงไม่ได้



กระทรวงบอกว่าผมทำงานมากเกินไป จะย้ายให้ไปอยู่จังหวัดอื่นที่งานโควิดเบาขึ้น



ผมเป็นห่วงชาวบ้าน ก่อนถึงฤดูโยกย้าย



ขอผมเป็นพนักพิงให้ชาวบ้านอุ่นใจก่อนว่า เรายังไม่หนีไปไหน พร้อมเผชิญเรื่องร้ายๆไปด้วยกัน



ผมเกษียณปีหน้าครับ



บอกคนใหญ่ในกระทรวง ถึงเหตุผลการย้าย มาจากสุขภาพร่างกายล้วนๆ



คำตอบที่ได้ตอนคำสั่งล่าสุด คือ ถึงผมอยากไปสุพรรณบุรี แต่นักการเมืองเขาไม่ยอมรับ(ซึ่งผมไม่รู้ว่าหมายถึงใคร) ผมไปไม่ได้แน่



ส่วนอ่างทอง เป็นจังหวัดเล็กเกินไป



ย้ายจากสมุทรสาคร ไปจังหวัดเล็กกว่าคงไม่เหมาะ



อือม์…อยู่ศรีสะเกษ 22 อำเภอ สมุทรสาคร 3 อำเภอ



ผมเข้าใจอะไรผิดเรื่องเล็กใหญ่แน่เลย



ไปจังหวัดอื่นก็ลำบาก อยู่สมุทรสาครต่อก็คงไม่ดี คนอยู่ที่นี่ควรจะแข็งแรงกว่าผม



ทำงานได้คล่องแคล่วกว่าผม



ไม่มีปัญหาด้านสุขภาพเหมือนผม



ผมคิดสะระตะในใจว่า



ผู้ว่าสุพรรณฯ เป็นกัลยาณมิตรที่ดีของผม



ส่วนผู้ว่าอ่างทอง เป็นอดีตเพื่อนร่วมงานที่ดีของผมเช่นกัน



ผมคงไม่มีเหตุผลใดจะไปไล่ที่เขา



ผมเคยฝันว่า จะสามารถอยู่รับราชการได้จนถึงเกษียณอายุ



เพราะคือจุดหมายปลายทาง ที่ข้าราชการทุกคนปรารถนา



แต่วันนี้ ต้องยอมรับว่าเป็นได้แค่ในฝัน



สาเหตุหลักมาจากการทุ่มเทให้กับงานมากไป



นึกถึงคำของผู้ใหญ่ที่บอกว่า จะหาจังหวัดอื่นที่งานโควิดเบาขึ้น แต่สุดท้ายก็ไม่ได้หาให้



คำสั่งที่เห็นจึงไม่มีชื่อผมด้วย



หลงคิดมานานว่า การจัดคนลงตำแหน่ง เป็นเรื่องของกระทรวงเป็นหลัก



หรือว่าผมไม่มีสีของสิงห์ใดๆ นอกจากสีกากีของเครื่องแบบ



สีที่ผมพยายามใช้ เดินตามรอยพระบาทในหลวง ร.9 มาตลอดชีวิตการทำงาน



นึกถึงคำของคุณหมอที่บอกหลังเห็นคำสั่งว่า



ผมควรใช้ชีวิตก่อนเกษียณที่สงบกว่านี้ ลาออกเถอะ บ้านเมืองย่อมมีคนมาทำงานได้ อย่าไปห่วงจนเกินตัว



นึกถึงคำของลูกสาวที่ปลอบพ่อว่า พ่อต้องดูสุขภาพและความรู้สึกพ่อเป็นหลัก



พ่ออยู่ในราชการอีกแค่ปีเดียว แต่อยู่ในชีวิตหลังเกษียณอีกหลายปี



พ่อทำงานหนักมาตลอดชีวิต



ปีสุดท้ายของพ่อ น่าจะเลือกให้เหมาะกับสุขภาพพ่อเป็นสำคัญ



มาถึงตรงนี้



คนที่สนิทกัน คงรู้แล้วว่าผมเลือกจะทำยังไง



จู่ ๆ ผมก็นึกถึงคำโบราณที่ว่า



“ยามดีใช้ ยามไข้(ไม่)รักษา”



         ก่อนหน้านี้ นายวีระศักดิ์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว วีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี เป็นภาพข้อความคอมเมนต์ในเพจ พร้อมระบุ ควรลาออกได้หรือยัง หลังจากที่การแก้ปัญหาโควิด-19 ในพื้นที่ถูกต่อว่าเรื่องการประสานหาเตียง การรักษาพยาบาลผู้ป่วย โดยระบุข้อความว่า   



         "ผมขอปรับปรุงระบบโทรศัพท์ และ Line ในการติดต่อศูนย์ประสานการรักษาพยาบาลฯ ของแต่ละอำเภอเป็นครั้งสุดท้าย ได้เตียงหรือไม่ ไม่ว่ากัน เพราะขึ้นกับสภาพอาการที่อาจไม่เหมาะกับ CI แต่ต้องมีการติดต่อกลับ อย่าถามผม ไม่ต้องติดต่อผม หลังส่งข้อความผ่านไลน์แล้ว หากไม่มีการติดต่อกลับจากทีมงาน ภายใน 24 ชม. ผมขออนุญาตพิจารณาตนเองออกจากการเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด ผมบอกชัดเจนว่าได้เตียงหรือไม่ ไม่เป็นไร แต่ต้องมีการติดต่อกลับ หากปรากฏว่ามีน้องสองราย มาเมนต์ในเพจผม รายแรกบอกว่า “ไอ้ที่ชีวิตคนมาก่อนระเบียบคืออะไร” ทีมงานตรวจแล้วค้นอีก หาอย่างไรก็ไม่เจอ รู้ภายหลังว่าติดต่อผิดช่องทาง จึงแจ้งให้ติดต่อตามช่องทางพร้อมทั้งหาแนวทางช่วยเหลือกัน ส่วนอีกรายตอบรายแรกว่า “ผว.พูดแบบนั้นมาเอง ไม่มีใครไปบังคับ ท่านก็ควรทำให้ได้” พูดง่ายๆว่า ผมต้องรักษาคำพูด คำกล่าวหาสั้นๆ แต่ทำลายกำลังใจคนทำงานมหาศาล ไม่มีคำขอโทษ นอกจากบอกแค่ว่าเข้าใจผิด กรณีอย่างนี้ ผมควรทำอย่างไร ลาออกได้รึยัง"



FB: Sakravee Srisangdharma

ข่าวทั้งหมด

X