กระทรวงสาธารณสุข นำข้อมูลจากระบบการติดตาม คาดการณ์แนวโน้มโควิด-19 ปรับยุทธศาสตร์เพื่อลดความสูญเสียพร้อมเร่งฉีดวัคซีนกลุ่ม 608 ทั่วประเทศ
นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จึงมีการปรับแผน และติดตามกำกับทุกสัปดาห์ เพื่อให้การทำงานมีความครอบคลุมในทุกด้าน โดยมีการปรับการทำงานตามฐานข้อมูลผู้ติดเชื้อยารักษา และการฉีดวัคซีน รองรับการคาดการณ์แนวโน้มระยะ 14 วัน และปรับยุทธศาสตร์การบริหารจัดการตลอดเวลา
จากข้อมูลช่วงวันที่ 6 - 12 สิงหาคม 2564 หรือสัปดาห์ที่ 34 ของปีนี้พบการติดเชื้อทั้ง 77 จังหวัด เฉลี่ย 20,000 รายต่อวัน จำนวนผู้ติดเชื้อกระจายจาก กทม.และปริมณฑลไปภูมิภาค มากที่สุดในภาคอีสาน และมีผู้ป่วยอาการหนักมี 5,507 ราย ส่วนใหญ่อยู่ทางภาคกลาง และไม่พบผู้ป่วยอาการหนัก 3 จังหวัด คือ กระบี่ พัทลุง และลำปาง
อัตราผู้เสียชีวิตอยู่ที่ร้อยละ 0.9 หรือคิดเป็น 105 ต่อประชากรล้านคน ขณะที่ค่าเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ 559 ต่อประชากรล้านคน
อัตราการเสียชีวิตต่อแสนประชากรพบว่ากระจุกตัวในภาคกลาง โดยจังหวัดที่อัตราการเสียชีวิตมากกว่า 5 ต่อแสนประชากร มี 5 จังหวัด คือ สมุทรสาคร อยู่ที่ 13 ต่อแสนประชากร, กทม. 10 ต่อแสนประชากร, สมุทรปราการ 6 ต่อแสนประชากร, ตาก 5.7 ต่อแสนประชากร และนครปฐม 5 ต่อแสนประชากร
อัตราการเสียชีวิต 3-5 ต่อแสนประชากร มี 6 จังหวัด คือ ปัตตานี ปทุมธานี ระนอง ปราจีนบุรี ตราด และนครนายก
เสียชีวิต 1.5-3 ต่อแสนประชากร มี 11 จังหวัด คือ อ่างทอง นราธิวาส พิจิตร อยุธยา ยะลา นครสวรรค์ ฉะเชิงเทรา นนทบุรี ราชบุรี ชลบุรี และระยอง
น้อยกว่า 1.5 ต่อแสนประชากรมี 44 จังหวัด
และไม่พบผู้เสียชีวิต 11 จังหวัด คือ กระบี่ ชุมพร เชียงราย เชียงใหม่ บึงกาฬ แพร่ ภูเก็ต ลพบุรี เลย สมุทรสงคราม และสุพรรณบุรี
จากการประชุมติดตามการทำงาน กระทรวงสาธารณสุขจึงตั้งเป้าหมายลดอัตราป่วยตายต้องไม่เกินร้อยละ 1 โดยกำชับให้ผู้ตรวจราชการเขตสุขภาพ มีการติดตามการทำงานอย่างใกล้ชิด จัดสรรทรัพยากรในการดูแลรักษาให้แต่ละจังหวัดอย่างเหมาะสม เช่น เครื่องช่วยหายใจ ยารักษา ตรวจเชิงรุก ค้นหาผู้ติดเชื้อเร็ว นำเข้าระบบการรักษาเร็ว ได้ยาเร็ว และเร่งฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้สูงอายุ 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ รวมถึงกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ระบาด ให้ครอบคลุมตามเป้าหมายของพื้นที่ ภายใน 30 วัน หรืออย่างน้อย 190,000 คนต่อวัน โดยฉีดเข็ม 1 ใน 29 จังหวัดควบคุมสูงสุด และเข้มงวดให้ได้ร้อยละ 70 ซึ่งขณะนี้มีเพียง กทม.ที่ฉีดกลุ่ม 60 ปีขึ้นไปได้ร้อยละ 90 และบางจังหวัด ได้แก่ ลพบุรี กาญจนบุรี นครราชสีมา ฉีดได้ต่ำกว่าร้อยละ 20 สำหรับจังหวัดอื่น ๆ ที่เหลือ ต้องฉีดให้ครอบคลุมร้อยละ 50 และเฝ้าระวังการระบาดในโรงงาน ตลาด และชุมชน เข้มงวดมาตรการ Bubble & Seal
...