อธิบดีกรมอนามัย ชี้ สตรีตั้งครรภ์เสี่ยงเหมือนคนมีโรคประจำตัว ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้น

13 สิงหาคม 2564, 16:13น.


         การพบหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อโควิด- 19 นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า การระบาดระลอกแรกพบหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อไม่มาก แต่เริ่มพบมากตั้งแต่ระลอก 2 คือ ธ.ค. 63 – มี.ค. 64 พบเดือนละ 5-25 คน แต่เริ่มการระบาดระลอก 3 ช่วง เม.ย. 64 เป็นต้นมา พบหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ พ.ค.พบเดือนละมากกว่า 200 คน จนช่วง ก.ค. พบมากถึง 800 กว่าคน และมีหญิงตั้งครรภ์เสียชีวิตเริ่มเมื่อ เม.ย. 64 และเพิ่มขึ้นตามลำดับ



          สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากภาวะปอดอักเสบจากการติดเชื้อโควิด 35 ราย เกิดจากภาวะทางสูติกรรม 2 คน ส่วนทารกที่คลอดออกมา 16 คน พบว่าทารกปกติดีไม่ติดเชื้อ 6 คน ญาติรับกลับไปดูแล มีทารกติดเชื้อ 2 คน และเสียชีวิต 5 ราย



          ปัจจัยเสี่ยงหญิงตั้งครรภ์เสียชีวิตเหมือนกลุ่มบุคคลทั่วไปมีโรคประจำตัว คือ อ้วน อายุเกิน 35 ปี มีเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ส่วนใหญ่ติดจากบุคคลในครอบครัว สถานที่ทำงาน และตลาด จากการวิเคราะห์พบว่าเกิดจาก 3 ปัจจัย คือ จากการตั้งครรภ์เอง 9% การเข้าถึงบริการ 21% และข้อจำกัดภายในระบบบริการ 70%



          ดังนั้น การยกระดับป้องกันและดูแลรักษาหญิงตั้งครรภ์ คือ เน้นการป้องกันระดับบุคคล โดย



 1.ดูแลป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ ตรวจอุณหภูมิ หากสงสัยเสี่ยงติดเชื้อ ไปตรวจด้วย ATK



2.สนับสนุนหญิงตั้งครรภ์ทำงานที่บ้านหาก โดยเฉพาะที่ยังไม่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม หญิงตั้งครรภ์ไตรมาส 3 หรือ 28 สัปดาห์ขึ้นไป



3. ควรเข้ารับการฉีดวัคซีน เพราะการติดเชื้อโควิดมีความเสี่ยงโรครุนแรงกว่าคนทั่วไป 3 เท่า โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์ที่อ้วน มีโรคประจำตัว ควรฉีดวัคซีนหลัง 12 สัปดาห์ ผลข้างเคียงจากวัคซีนคล้ายกับคนไม่ตั้งครรภ์ สามารถฉีดได้ในสตรีที่ให้นมบุตร



          ข้อมูลตั้งแต่ ธ.ค. 2563 – 11 ส.ค. 2564 พบหญิงตั้งครรภ์ติดโควิด 1,993 คน  เป็นคนไทย 1,315 คน และคนต่างด้าว 678 คน จำนวนนี้มีผู้รับวัคซีนแล้ว 10 คน ทารกติดเชื้อมี 113 คน สำหรับหญิงตั้งครรภ์ที่เสียชีวิตมี 37 ราย ทารกเสียชีวิต 20 ราย แบ่งเป็นเสียชีวิตขณะคลอด 11 ราย และเสียชีวิตช่วง 7 วันแรก 9 ราย ยังไม่รวมรายงานการเสียชีวิตในวันที่ 13 ส.ค. ซึ่งพบอีก 2 ราย ที่ จ.ชัยนาท และอุดรธานี  โดยการได้รับวัคซีน จากข้อมูลจากระบบหมอพร้อมเมื่อวันที่ 11 ส.ค. มีหญิงตั้งครรภ์ฉีดวัคซีนโควิดเข็มแรก 7,935 คน และครบเข็ม 2 จำนวน 574 คน



          สำหรับหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อพบว่า ส่วนใหญ่อายุ 20-37 ปี คิดเป็น 74.21% อายุ 35 ปีขึ้นไป 19.17% และอายุต่ำกว่า 20 ปี 5.07% เกิดอาการปอดอักเสบ 449 ราย คิดเป็น 22.53% อยู่ในช่วงอายุต่ำกว่า 20 ปี 9 ราย คิดเป็น 10.89% อายุ 20-34 ปี 269 ราย คิดเป็น 20.96% อายุ 35 ปีขึ้นไป 105 ราย คิดเป็น 27.49% และไม่ระบุอายุ 23 ราย คิดเป็น 74.19%



          ส่วนจำนวนหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อที่คลอดแล้ว ข้อมูลถึงวันที่ 11 ส.ค. มีจำนวน 1,129 คน คิดเป็น 55.65% ส่วนใหญ่ผ่าตัดคลอด 53% พบการคลอดก่อนกำหนดหรือก่อน 37 สัปดาห์เกือบ 18% ซึ่งปกติในไทยพบ 10% และพบทารกแรกเกิดน้ำหนักน้อย 16% ซึ่งปกติในไทยพบประมาณ 8% เมื่อดูจำนวนผู้เสียชีวิต 37 ราย อยู่ใน กทม. 7 ราย และต่างจังหวัด 30 ราย จำนวนนี้พบว่าเสียชีวิตก่อนคลอด 16 ราย และเสียชีวิตหลังคลอดแล้ว 16 ราย ส่วนใหญ่เป็นการเสียชีวิตครึ่งหลังของการตั้งครรภ์   



          10 จังหวัดที่พบติดหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อสูงสุด คือ กทม. 417 คน , สมุทรสาคร 370 คน , ปทุมธานี 81 คน , ยะลา 80 คน , สงขลา 74 คน , สมุทรปราการ 71 คน , นราธิวาส 71 คน , พระนครศรีอยุธยา 68 คน , ขอนแก่น 53 คน และตาก 4 คน



 

ข่าวทั้งหมด

X