ตำรวจเยอรมนี เผยพยาบาลเปลี่ยนวัคซีนเป็นน้ำเกลือมีแนวคิดต่อต้านวัคซีน

          ความคืบหน้ากรณีที่มีพยาบาลชาวเยอรมนีเปลี่ยนวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์เป็นน้ำเกลือและฉีดให้กับประชาชนประมาณ 8,600 คนระหว่างวันที่ 5 มีนาคมถึง 20 เมษายนปีนี้ที่ศูนย์สร้างภูมิคุ้มกันโรครอฟเฮาเซนในฟรีสลันด์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ และทำให้สาธารณสุขในพื้นที่ต้องแจ้งให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบกลับมารับการฉีดวัคซีนอีกครั้ง พร้อมยืนยันว่าการฉีดน้ำเกลือเข้าสู่ร่างกายในปริมาณ 1 โดสไม่เป็นอันตราย แต่เนื่องจากกลุ่มผู้ที่รับวัคซีนในช่วงเวลานั้นเป็นผู้สูงอายุทำให้มีความกังวลว่าหากติดเชื้อจะทำให้เกิดอาการป่วยรุนแรงได้

          ตำรวจเยอรมนี เปิดผลการสอบสวนพบว่าพยาบาลรายนี้เป็นผู้ทำหน้าที่เตรียมวัคซีนและการเตรียมเข็มฉีดยา ทำให้สามารถสับเปลี่ยนวัคซีนกับน้ำเกลือได้ ขณะที่ส่วนตัวเธอมีแนวคิดต่อต้านการฉีดวัคซีน มักจะโพสต์ข้อความผ่านสื่อสังคมออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์นโยบายของรัฐบาลในการควบคุมโควิด-19 และตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับวัคซีน

          เมื่อวันอังคาร (10 ส.ค.) นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนี เรียกร้องให้ชาวเยอรมันรับวัคซีนเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลตา ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ประชาชนประมาณร้อยละ 55.1 ที่ได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้ว แต่หากต้องการสร้างความมั่นใจในการสร้างภูมิคุ้มกันกลุ่มจะต้องฉีดวัคซีนให้ได้ถึงร้อยละ 80 นอกจากนี้ ตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป ผู้สูงอายุและผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องจะมีสิทธิ์ได้รับวัคซีนโดสที่ 3 หรือบูสเตอร์ด้วยวัคซีนชนิด mRNA 

....