สธ.เรียกร้อง รัฐบาลปกป้องคุ้มครองผู้ปฏิบัติงานในสถานการณ์โควิด-19

11 สิงหาคม 2564, 17:30น.


          นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยผู้บริหาร ประกอบด้วย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข อธิบดีทุกกรม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา สถาบันวัคซีนแห่งชาติ สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ องค์การเภสัชกรรม แพทยสภา สภาการพยาบาล ทันตแพทยสภา สภาเภสัชกรรม สภาเทคนิคการแพทย์ สภากายภาพบำบัด และแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ร่วมประกาศแถลงการณ์ขอให้คุ้มครองผู้ปฏิบัติงานในสถานการณ์โควิด-19



         นายแพทย์เกียรติภูมิ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขและสภาวิชาชีพด้านสุขภาพ เห็นพ้องต้องกันว่า โรคโควิด-19 เป็นโรคอุบัติใหม่ร้ายแรง ที่มีผลกระทบในวงกว้างทุกมิติ ทำให้มีผู้คนเจ็บป่วยจำนวนมาก และบางครอบครัวต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก ระบบสาธารณสุขของไทยได้ต่อสู้กับโรคนี้มานานเกือบ  2  ปี ด้วยสรรพกำลังทั้งภาครัฐ เอกชน จิตอาสา ประชาสังคม และประชาชน ด้วยสถานการณ์ทุกด้านที่มีความเร่งด่วน ต้องการความร่วมมือร่วมใจในการควบคุมป้องกันโรค การรักษาพยาบาลในทุกวิถีทางที่จะทำได้ รวมทั้งการจัดหายา เวชภัณฑ์และวัคซีน ซึ่งการตัดสินใจและการทำงานในภาวะเร่งด่วน รวมทั้งมีข้อจำกัดในเรื่องขององค์ความรู้และทรัพยากร อาจก่อให้เกิดความไม่สมบูรณ์ หรืออาจเกิดข้อผิดพลาดจากการปฏิบัติงานโดยสุจริตใจได้



        ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุข จึงร่วมกับภาคีเครือข่ายด้านสุขภาพข้างต้น ขอเสนอให้รัฐบาลได้โปรดพิจารณาดำเนินการหามาตรการในการปกป้องคุ้มครองผู้ปฏิบัติงาน ตลอดจนนักวิชาการต่างๆ เพื่อลดความวิตกกังวล และสร้างความมั่นใจในการทำงานที่จะเป็นประโยชน์สูงสุดกับประชาชนต่อไป



       ก่อนหน้านี้ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้สอบถามความชัดเจนกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ถึง พ.ร.ก.คุ้มครองแพทย์ (ร่าง พ.ร.ก.จำกัดความรับผิดสำหรับบุคลากรสาธารณสุขในการรักษาผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019) เป็นอย่างไรบ้าง นายอนุทิน ชี้แจงว่า ยังไม่เห็นกฎหมายฉบับเต็ม เพราะยังยกร่างไม่เสร็จ อยู่ในขั้นตอนของกระทรวง กระทรวงสาธารณสุขจะต้องมาปรึกษากับนายวิษณุอยู่แล้ว โดยเรื่องนี้เริ่มจากที่ประชุมอีโอซี กระทรวงสาธารณสุข เห็นพ้องต้องกันว่าบุคลากรทางการแพทย์และบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาโควิด-19 มีความกังวลในการทำงาน เนื่องจากต้องดูแลผู้ป่วย 1-2 หมื่นคนต่อวัน ผู้ป่วยบางคนไม่ได้รับความสะดวก โรงพยาบาลสนามบางแห่งไม่มีเครื่องเอ็กซเรย์



          นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ถ้าสถานการณ์ปกติไม่เป็นอะไร แต่วันนี้มีผู้ป่วยอยู่ใน Home Isolation (HI) และ Community Isolation (CI) จำนวน 200,000 กว่าราย จึงเป็นความกังวลของบุคลากรทางการแพทย์ว่าจะถูกฟ้องร้องตามหลังหากรักษาให้ไม่ทันหรือเกิดความผิดพลาด อีกทั้งฝ่ายตรงข้ามก็พยายามโจมตีเฉพาะประเด็นยา ประเด็นวัคซีน มาพูดถึง พ.ร.ก.ดังกล่าว แต่ข้อเท็จจริงมันมีอย่างอื่น ถ้าเกิดอะไรผิดพลาดก็อยากได้การรับรอง จะได้ไม่มีใครมาฟ้อง จึงต้องทำทุกอย่างให้ครอบคลุม



          นายวิษณุ กล่าวว่า ถือเป็นหลักการที่ดี เจตนาดี เพราะแพทย์มีสิทธิที่จะถูกฟ้องได้ แต่อาจจะไปใช้วิธีอื่นได้ เช่น ดึงเอาบุคลากรทางการแพทย์มาเป็นเจ้าพนักงานของ ศบค. ซึ่งได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ไมแน่ใจว่าเพียงพอหรือไม่ แต่หากจำเป็นต้องออกเป็น พ.ร.ก. อยากให้นำเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน หรือเรื่องที่ต้องการแก้ไขอื่นๆ เช่น เรื่องวัคซีน โรงพยาบาลสนาม เอามารวมใน พ.ร.ก.ฉบับนี้ ไม่ใช่นิรโทษกรรมเรื่องเดียว หรือแม้แต่ประเด็นที่อยากจะแก้ไข พ.ร.บ.โรคติดต่อ  เพราะถ้าจะทำ ต้องทำให้รอบคอบ ครอบคลุม แต่การออก พ.ร.ก.นี้อาจไม่มีเหตุผลทางการเมืองที่จำเป็นต้องออก



 

ข่าวทั้งหมด

X