สถานการณ์โควิด-19 ที่ระบาดรุนแรงในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวผ่านเพจ “กระทรวงสาธารณสุข” เรื่อง “ผลการปฏิบัติการเชิงรุกCCR Teamสธ.และทีมภูมิภาคในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล” ว่า ภารกิจกู้ภัยโควิดเชิงรุกในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล โดยดำเนินการมาแล้ว 2 ครั้ง มีทีมร่วมปฏิบัติการ 41 ทีม ผู้ปฏิบัติงาน 400 คน แต่ละทีมประกอบด้วยแพทย์ เภสัชกร พยาบาลและ สหวิชาชีพในการทำหน้าที่ร่วมกัน โดยทำงานเชิงรุก 4 ภารกิจหลัก คือ ตรวจ ค้นหา รักษาและฉีดวัคซีน
ผลการปฏิบัติงานในครั้งที่ 3 ภารกิจการตรวจและค้นหาใช้ชุดตรวจ ATKมีการตรวจสะสม 145,566 ราย พบผลเป็นบวก 16,186 ราย คิดเป็น 11.1% เมื่อเปรียบเทียบผลใน 2 ครั้งที่ผ่านมา โดยครั้งที่ 1 เจอผลบวก 9% ครั้งที่ 2 เจอ 16.1% ซึ่งในเรื่องความกว้างขวาง ทั่วถึงในการตรวจนั้นครั้งที่ 3 ได้มีการตรวจเข้าไปในชุมชนที่หลากหลาย ในคอนโดมิเนียม ที่พักอาศัยที่อยู่อย่างแออัด และชุมชนแออัดทั้งที่ขึ้นและไม่ขึ้นทะเบียนหลายร้อยชุมชน ผลที่เจอผู้ติดเชื้อ 11% นั้น สะท้อนว่าอัตราการติดเชื้อในชุมชนพื้นที่ กทม.และปริมณฑลยังอยู่ในระดับที่ต้องติดตามและน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง
จากการประเมินอาการของผู้ติดเชื้อ พบว่า ผู้ป่วยสีเขียว สะสม 11,216 คน คิดเป็น 63.3%สีเหลือง 4,639 คน คิดเป็น 28.7% และสีแดง 331 คน คิดเป็น 2% สะท้อนว่ายังมีผู้ป่วยอีกจำนวนมากที่ยังตกค้างในชุมชนและยังเข้าไม่ถึง แม้กระทั่งในเรื่องการตรวจเพื่อวินิจฉัยตัวเองว่าติดโควิดหรือไม่ และมีการรับยาฟาวิพิราเวียร์ 9,343 คน คิดเป็น 57.7% ของผู้ที่มีผลATK เป็นบวก โดยจำนวนยาฟาวิพิราเวียร์ที่ผู้ป่วยได้รับ 467,150 เม็ด รับยาฟ้าทะลายโจร 3,614 คน คิดเป็น 22.3% ของผู้ที่มีผล ATK เป็นบวก และการฉีดวัคซีน สะสม 7,761 คน
แฟ้มภาพ