ความร่วมมือด้านวัคซีนโควิด-19 นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงว่านายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.การต่างประเทศ เข้าร่วมการประชุมระหว่างประเทศ เรื่องความร่วมมือด้านวัคซีนโควิด-19 ซึ่งมีนายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรมว.ต่างประเทศจีน เป็นประธาน พร้อมด้วยผู้แทนระดับสูงจากภาครัฐ 24 ประเทศ องค์กรระหว่างประเทศและบริษัทผลิตวัคซีน เข้าร่วมด้วย
สำหรับการประชุมดังกล่าวจัดขึ้นเป็นครั้งแรกตามข้อริเริ่มของรัฐบาลจีน ที่ประชุมได้ให้ความสำคัญใน 3 ประเด็น คือ
1.การเร่งพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ให้ทันกับการกลายพันธุ์
2.การสนับสนุนให้มีการหารือการยกเว้นสิทธิบัตรทางปัญญาของวัคซีนโควิด-19ภายใต้องค์การการค้าโลก และวัคซีนโควิด-19ควรเป็นสินค้าสาธารณะของโลกที่สามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศกำลังพัฒนาและรายได้น้อย และ
3.การเรียกร้องให้ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศยิ่งขึ้นในการต่อสู้และรับมือกับโควิด-19รวมทั้งการไม่เลือกปฏิบัติในการอนุมัติวัคซีนโควิด-19ชนิดต่างๆ สำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ โดยควรใช้มาตรฐานขององค์การอนามัยโลก (WHO) เป็นหลัก
สำหรับความคืบหน้าการจัดฉีดวัคซีนโควิด-19ให้ชาวต่างชาติในไทย หลังจากกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เปิดให้ชาวต่างชาติที่มีถิ่นพำนักในประเทศไทย ทุกกลุ่มอายุ และทุกจังหวัด ลงทะเบียนเพื่อรับวัคซีน ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.2564 นั้น ข้อมูลเมื่อวันที่ 10 ส.ค.2564 เวลา 15.00 น. ระบุว่ามีชาวต่างชาติที่ลงทะเบียนดังกล่าวแล้ว รวมจำนวน 47,626 คน ซึ่งแบ่งเป็นผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 10,268 คน ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 60 ปี 37,358 คน สตรีตั้งครรภ์ 204 คน และผู้ที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรคเสี่ยง 3,462 คน
ล่าสุด กรมการกงสุลได้ส่งรายชื่อชาวต่างชาติที่ลงทะเบียนผ่านระบบดังกล่าว และผ่านเกณฑ์คัดกรองในเบื้องต้น ไปให้กรมควบคุมโรคแล้ว จำนวน 29,314 คน หลังจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขหรือศูนย์ฉีดวัคซีนจะแจ้งให้ชาวต่างชาติกลุ่มนี้ไปรับการฉีดวัคซีนตามความจำเป็นเร่งด่วนและในจังหวัดที่พำนักอาศัยต่อไป
สำหรับภาพรวมของการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19ให้แก่ชาวต่างชาติในประเทศไทย ผ่านกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการต่างประเทศ และโรงพยาบาลต่างๆ มีจำนวนทั้งสิ้น 280,085คน (สถานะถึงเดือน ก.ค.2564) ครอบคลุมชาวต่างชาติหลายกลุ่ม อาทิ กลุ่มชาวต่างชาติที่มีถิ่นพำนักในไทย คณะทูต องค์การระหว่างประเทศ นักธุรกิจ สื่อมวลชน กลุ่มแรงงาน โดยในจำนวนนี้มีผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 20,903 คน