จีนลงโทษเจ้าหน้าที่หลายสิบคน ฐานล้มเหลวในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19

          สื่อของทางการจีน รายงานว่า ทางการลงโทษเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นมากกว่า 47 คน ฐานล้มเหลวในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลตา ทำให้สถานการณ์ของโรคระบาดมีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และมีแนวโน้มที่จะกลับมารุนแรงที่สุดในรอบ 1 ปี การระบาดในระลอกล่าสุดนี้มีจุดเริ่มต้นจากเมืองหนานจิงทางตะวันออกของประเทศ แล้วแพร่กระจายไปยังกว่าครึ่งหนึ่งของ 31 มณฑลในประเทศ พบผู้ติดเชื้อที่มีอาการมากกว่า 1,000 คนใน 3 สัปดาห์ ตามรายงานประจำวันของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ และมีการเร่งบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวด และการตรวจหาผู้ติดเชื้อ เหมือนกับที่เคยใช้ในการระบาดครั้งแรกเมื่อต้นปี 2563 เจ้าหน้าที่ที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการในทันทีจะถูกลงโทษทางวินัย ซึ่งสื่อของทางการจีน รายงานว่า ในกลุ่มผู้ที่ถูกลงโทษมีทั้งหัวหน้ารัฐบาลท้องถิ่น คณะกรรมการสุขภาพ ผู้บริหารโรงพยาบาล และผู้บริหารสนามบิน

          ที่เมืองหนานจิง มณฑลเจียงซู คณะกรรมการกลางเพื่อการตรวจสอบวินัยของพรรคคอมมิวนิสต์ เปิดเผยว่า มีเจ้าหน้าที่ 15 คนต้องรับผิดชอบฐานปล่อยให้มีการติดเชื้อและแพร่กระจายที่สนามบินนานาชาติ โดยเจ้าหน้าที่ 3 คนที่สนามบินกำลังถูกสอบสวนโดยเจ้าหน้าที่วินัยของมณฑล และอีก 2 คนถูกควบคุมตัว และอีก 10 คน รวมทั้งรองนายกเทศมนตรีเมืองหนานจิง ถูกลงโทษตั้งแต่ถูกพักงานไปจนถึงการตักเตือนอย่างรุนแรง

          และที่เมืองหยางโจว มณฑลเจียงซู มีการออกคำเตือนเจ้าหน้าที่ 6 คนและตำหนิเจ้าหน้าที่ 2 คนอย่างรุนแรง เกี่ยวกับการจัดสถานที่ตรวจเชื้อให้แก่ประชาชน ทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะมีการแพร่ระบาด โดยเมื่อวานนี้ (10 ส.ค.) เมืองหยางโจว รายงานมีผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมที่มีอาการ 394 คน โดยมีอยู่ 26 คนมีอาการหนัก และผู้ป่วยวิกฤต 6 คน

          ส่วนที่เมืองจางเจียเจี้ย ในมณฑลเหอหนาน มีเจ้าหน้าที่ 18 คนถูกลงโทษฐานมีการทำงานที่ล่าช้าในการจัดการกับสถานการณ์ของโรคระบาด โดยเมืองจางเจียเจี้ย อยู่ภายใต้การปิดเมืองตั้งแต่เมื่อเดือนที่แล้ว เนื่องจากมีการจัดการแสดงละครซึ่งมีผู้เกี่ยวข้องหลายพันคนและมีความเกี่ยวข้องกับกับคลัสเตอร์หนานจิง 

....