หลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ ครั้งที่ 2 ที่มีม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน นายกุลิศ สมบัติศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ(คนร.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้กำหนดให้กระทรวงการคลังออกกฎกระทรวงการคลัง กำหนดให้ โครงการที่จะต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์ ขั้นตอนที่กำหนดใน พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)ร่วมลงทุนรัฐและเอกชน หรือ (พีพีพี) โดยให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์พีพีพีเป็นผู้พิจารณา คือ หากเป็นโครงการที่เป็นโครงสร้างพื้นฐาน หรือบริการสาธารณะทั้งหมด หรือมีมูลค่ามากกว่า5,000ล้านบาท เช่น โครงการรถไฟ ,โครงการทำถนน เป็นต้น ก็จะต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.พีพีพี.โดยต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการยุทธศาสตร์พีพีพี เพื่อเห็นชอบก่อน แต่หากเป็นโครงการที่ไม่เป็นโครงสร้างพื้นฐาน และไม่เป็นบริการสาธารณะ และมีมูลค่าไม่ถึง 5,000ล้านบาท เช่น โครงการเชิงพาณิชย์ ,การเช่าที่ดินของรัฐ เป็นต้น ก็ให้กระทรวงผู้รับผิดชอบ เป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นชอบได้เลย โดยไม่ต้องผ่านคณะกรรมการฯพีพีพี เนื่องจากจะได้ลดขั้นตอนในการดำเนินการ นายกุลิศ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการเห็นชอบกฎหมายลูก ในพ.ร.บ.ร่วมลงทุนรัฐและเอกชน หรือ (พีพีพี) ไปแล้ว 14ฉบับ จาก17ฉบับ ซึ่งคาดว่าภายในเดือนนี้ คณะกรรมการฯ จะสามารถพิจารณากฎหมายลูกนี้แล้วเสร็จทั้งหมด ทั้งนี้หลังจากนี้คณะกรรมการฯ มีการร่างแผนดังกล่าวควบคู่การหารือกับกระทรวงต้นสังกัดของโครงการ เพื่อรับฟังความคิดเห็น ก็จะเสนอต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อพิจารณาในเดือนเมษายนต่อไป อย่าไรก็ตาม ในส่วนของแผนยุทธศาสตร์ พีพีพี ก็จะครอบคลุมกิจการเอกชนและร่วมลงทุน เช่น การคมนาคมทุกประเภท การสื่อสาร การศึกษา สาธารณสุข และเศรษฐกิจ
วิรวินท์