ความเคลื่อนไหวเมืองไทย 13.10 น. ประจำวันที่อังคารที่ 10 สิงหาคม 2564
ไทยเร่งพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 แบบพ่นจมูก
การรับมือโควิด-19 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) ได้พัฒนาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) แบบพ่นจมูก ชนิด Adenovirus-based และ Influenza-based ซึ่งผ่านการทดสอบการกระตุ้นภูมิคุ้มกันในหนูทดลองเรียบร้อยแล้ว พบว่ามีประสิทธิภาพต่อการคุ้มโรคที่เกิดขึ้น ซึ่งข้อมูลที่ได้จะผลักดันให้เป็นวัคซีนต้นแบบป้องกันโรค COVID-19 สามารถนำไปทดสอบทางคลินิกในอาสาสมัครต่อไป
ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ไบโอเทค สวทช. ให้ข้อมูลว่า ทีมวิจัยไวรัสวิทยาและเซลล์เทคโนโลยี ไบโอเทค ได้ดำเนินงานวิจัยและพัฒนาวัคซีนต้านโรคติดเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่มีการเริ่มระบาดในประเทศจีนในเดือนมกราคม 2563 เป็นต้นมา ปัจจุบันทีมวิจัย สวทช. มีความคืบหน้าในการพัฒนาเป็นต้นแบบวัคซีนเป็นอย่างมาก ซึ่งเราได้ผลักดันต้นแบบวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 แบบพ่นจมูก ออกมาได้ 2 ชนิด คือ
-วัคซีนชนิด Adenovirus ที่มีการแสดงออกของโปรตีนสไปค์ ออกแบบโดยการพ่นเข้าจมูกผ่านละอองฝอย รูปแบบนี้น่าจะเป็นวัคซีนที่ใกล้เคียงกับหลาย ๆ ที่ ที่กำลังทดสอบในเฟส 1-2 ของทีม สวทช. ผ่านการทดสอบในหนูทดลองที่ฉีดเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว พบว่า หนูทดลองนอกจากไม่มีอาการป่วย ยังมีน้ำหนักขึ้นสูงกว่ากลุ่มที่ฉีดเข้ากล้ามอย่างเห็นได้ชัด ผลการทดสอบความปลอดภัยไม่มีปัญหา การผลิตในระดับ GMP ร่วมมือกับ KinGen BioTech เรากำลังจะทดสอบวัคซีนนี้ในอาสาสมัครมนุษย์ในรูปแบบที่สร้างจากไวรัสสายพันธุ์เดลต้า ในเร็ว ๆ นี้ ผลงานวิจัยกำลังเร่งรวบรวมผลส่งเข้าตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ และ
-วัคซีนชนิด Influenza virus ที่มีการแสดงออกของโปรตีน RBD ของสไปค์ ตัวนี้กำลังต่อคิว ทดสอบประสิทธิภาพการคุ้มโรคโควิด-19 และผลการวิจัยเรื่องระดับภูมิคุ้มกันในหนูทดลองได้ตีพิมพ์ไปแล้ว ซึ่งการทดสอบในหนูทดลองโดยการพ่นเข้าจมูกผ่านละอองฝอย และ ฉีดเข้ากล้าม พบว่าสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันทั้งในรูปแบบแอนติบอดี และ T cell ได้สูง เช่นเดียวกัน ซึ่งวัคซีนตัวนี้ร่วมมือกับทีมองค์การเภสัชกรรม และ มีแผนจะออกมาทดสอบความปลอดภัยเป็นตัวต่อไป
เมื่อวัคซีนนี้ได้ผ่านขั้นตอนการศึกษาในสัตว์ทดลองแล้ว พบว่าได้ผลดี ไม่มีผลข้างเคียง จึงจะยื่นเอกสารต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อขอทดสอบในมนุษย์ โดยจะร่วมกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โดยวางแผนทดสอบประสิทธิภาพวัคซีนกับเชื้อสายพันธุ์เดลตา หาก อย. อนุมัติเร็ว ก็เริ่มทดสอบในมนุษย์เฟสแรกปลาย2564 นี้ และต่อเนื่องเฟส 2 ในเดือนมีนาคม 2565 หากได้ผลดีจะสามารถผลิตใช้ได้ประมาณกลางปี 2565 นี้
สำหรับวัคซีนโควิด-19 ชนิดพ่นจมูก เป็นวัคซีนที่พ่นละอองฝอยในโพรงจมูกผ่านเข็มฉีดพ่นยาชนิดพิเศษที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อส่งวัคซีนไปเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในเยื่อเมือกของระบบทางเดินหายใจส่วนบนโดยตรง ซึ่งไวรัสส่วนใหญ่รวมถึงไวรัสโคโรนาอันเป็นสาเหตุของโควิด-19 มักจะเข้าสู่ร่างกายผ่านทางจมูกและก่อตัวขึ้นในโพรงจมูกก่อนที่จะแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกายรวมถึงปอด จากการทดสอบพบว่าแอนติบอดีในเยื่อเมือกระบบทางเดินหายใจส่วนบน จะสร้างภูมิคุ้มกันได้เร็วและดีกว่าวัคซีนแบบฉีดเข้ากล้ามเนื้อ รวมถึงสามารถกระตุ้นการผลิต อิมมูโนโกลบูลินเอ (Ig A) ที่จำเพาะต่อแอนติเจน และเม็ดเลือดขาวชนิด T cell ในทางเดินหายใจช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันแบบฆ่าเชื้อ
'ดร.อนันต์'เผยผลวิจัยฉีด 'ไฟเซอร์-โมเดอร์นา'ในสหรัฐ พบโมเดอร์นา สู้กับเดลตาได้ดีกว่า
ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) ได้ให้ข้อมูลผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า “Pfizer Vs Moderna : เมื่อสู้กับเดลต้า…ใครชนะ? ตอนหนึ่งระบุว่า ตัวเลขประสิทธิภาพโดยรวมของวัคซีนทั้งสองยี่ห้อถือว่าสูงครับ แต่ถ้าให้เปรียบเทียบกันแบบตัวต่อตัว คะแนนที่ออกมาคือ “Moderna เป็นฝ่ายชนะ” ครับ ภาพจำนวนผู้ได้รับวัคซีนที่มีอาการโควิดในกลุ่มที่ฉีด Pfizer (เส้นสีน้ำเงิน) ดูเหมือนจะใกล้เคียงกับ Moderna (เส้นสีส้ม) ในช่วง 70 วัน หลังจากได้วัคซีนครบ 2 เข็ม และ หลังจากนั้นกราฟของ Pfizer จะเริ่มแยกออกจาก Moderna อย่างเห็นค่อนข้างชัด
เมื่อดูค่าประสิทธิผลรายเดือนจะเห็นว่า ประสิทธิผลของวัคซีนทั้งสองชนิดจะเริ่มตกลงที่เดือนมิถุนายนทั้งคู่ โดยเดือนกรกฎาคม ค่าของ Pfizer จะอยู่ที่ 42% ขณะที่ Moderna อยู่ที่ 76% ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สอดคล้องกับการระบาดของเดลต้ามากกว่า 70% ในรัฐนั้น
ตัวเลขเปรียบเทียบจำนวนผู้ป่วยมีอาการจำเป็นต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลสำหรับ Moderna ดูดีกว่า Pfizer เช่นกัน โดยสองกลุ่มมีผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลมากขึ้นช่วงที่เดลต้าระบาดทั้งคู่ คนที่ได้ Pfizer มีประมาณ 25% ขณะที่ Moderna มีประมาณ 20% ซึ่งเห็นค่อนข้างชัดว่า จากช่วงเวลาที่ยาวนานขึ้นหลังฉีด บวกกับ ไวรัสเดลต้า สามารถพบคนที่ติดเชื้อและมีอาการได้มากขึ้นกว่าการระบาดช่วงแรกๆอย่างค่อนข้างชัดเจน”
สำหรับงานวิจัยชิ้นนี้ เป็นหนึ่งของทีมวิจัยในรัฐ Minnesota สหรัฐอเมริกาเก็บข้อมูลคนที่ได้รับวัคซีน Pfizer และ Moderna เปรียบเทียบดูประสิทธิภาพของวัคซีนทั้งสองชนิดในช่วงเวลาที่มีการระบาดของไวรัสโรคโควิด-19 ตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว จนถึงเดือนกรกฎาคมปีนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่มีการระบาดของไวรัสแอลฟา และ เดลต้าที่มีสัดส่วนที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงที่เก็บข้อมูล กลุ่มตัวอย่างที่เก็บข้อมูลอยู่ที่ 25,896 คน ในแต่ละกลุ่มรวมทั้งกลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีนด้วย
หมอประสิทธิ์ ย้ำไทยยังไม่ถึงจุดพีคของโควิด-19 ระบาด เร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม
ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ให้สัมภาษณ์ภายหลังการให้ข้อมูลสถานการณ์โควิดผ่านระบบออนไลน์ ถึงกรณีหลายประเทศเริ่มพบความรุนแรงของสายพันธุ์เดลตา ว่า ขณะนี้ CDC สหรัฐอเมริกา ได้ออกแนวปฏิบัติ เกี่ยวกับสายพันธุ์เดลตาในสหรัฐฯ ว่ามีความรุนแรงขึ้น และขอให้เร่งฉีดวัคซีนให้เร็ว เนื่องจากการฉีดวัคซีนยังไม่ถึงจุดที่ควรจะเป็น และแนะนำให้สวมใส่หน้ากากอนามัย ขณะเดียวกันโดยในอเมริกายังพูดว่า สายพันธุ์นี้เพิ่มขึ้น และก่อปัญหาร้อยละ 80-87 จากเดิมต้นเดือน มิ.ย.พบเพียงร้อยละ 8-14 โดยสายพันธุ์นี้แพร่กระจายเร็ว และมีแนวโน้มในการก่อปัญหาสุขภาพที่รุนแรงกว่าสายพันธุ์เริ่มต้น
กราฟการระบาดของไทยจะลดได้เมื่อไหร่ ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า บางพื้นที่ยังไม่ทำตามมาตรการ เช่น การพบปะ การจัดกิจกรรมในโรงเรียน หรืออื่นๆ ซึ่งเมื่อเกิดคลัสเตอร์ใหม่ และระบบจัดการไม่ดีจะยุ่ง หากทุกคนกระชับได้จริง เชื่อว่าเดือน ก.ย.-ต.ค. คู่ขนานกับการฉีดวัคซีน ถ้าได้ตามเป้าหมายทะลุร้อยละ 25 ภายในส.ค.ก็น่าจะได้ และจะไต่ยอดไปเรื่อยๆ ดังนั้น ช่วง ก.ย.-ต.ค. น่าจะเห็นจุดที่วัคซีนมากพอ คู่ขนานกับมาตรการต่างๆ ก็จะเห็นตัวเลขลดลง แต่ต้องไม่มีสิ่งใดๆเข้ามาก่อให้เกิดการแพร่กระจายมากขึ้น
“ถ้าตัวเลขการระบาดลดได้จริง และปลายปีมีไฟเซอร์ 20 ล้านโดสเข้ามาในประเทศไทย เชื่อว่าเราจะยื้อไปจนถึงมีวัคซีนรุ่น 2 ในปีหน้าได้ ซึ่งจะเชื่อมโยงได้ทัน แต่หากมีอะไรมากระทบอีก ก็ไม่อยากนึกว่า จำนวนจะเป็นอย่างไร ซึ่งขณะนี้ยังไม่ถึงจุดพีค เพราะตัวเลขของกราฟ ไม่ว่าในกทม. หรือต่างจังหวัด ยังขึ้นอยู่ เพียงแต่บางพื้นที่ขึ้นด้วยความชันน้อยลง แต่ยังไม่วิ่งลง”
สิ่งสำคัญเราต้องดูสถานการณ์ทั่วโลกคู่ขนานกับประเทศไทย ไม่เช่นนั้นเราจัดการไม่ได้ หากทั่วโลกยังร้อน ทั้งวัคซีน ทั้งยา ก็ต้องแย่งกัน และยิ่งตอนนี้สิ่งที่หลุดไปจากความคาดการณ์แต่เดิม คือ สายพันธุ์เดลตา ไม่อยากเรียกว่า ไวรัสล้างโลก ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปมาก หลายประเทศย้อนกลับมาคุมใหม่หมด อย่างตัวอย่างของสหรัฐฯ หรืออิสราเอล หากเราไม่ช่วยกัน หากแต่ละประเทศแพร่ระบาดมากๆ และโชคร้ายมีสายพันธุ์ใหม่อีก ตอนนั้นจะยิ่งเดือดร้อน ตอนนี้จึงต้องเร่งหยุดการแพร่กระจายให้เร็วที่สุด
ส่วนในเรื่องของวัคซีนนั้น ช่วงเวลานี้ไปจนถึงปลายปียังมีการแย่งวัคซีนในแต่ละประเทศ ซึ่งวัคซีนไม่เพียงพอ อย่างการผลิตให้มากๆไม่สามารถทำได้ทัน ขณะเดียวกันยังถูกซ้ำเติมด้วยสายพันธุ์ที่กระจายเร็ว ซึ่งวัคซีนรุ่นแรกๆ อาจคุมได้แต่ประสิทธิภาพลดลง สุดท้ายพูดถึงเข็ม 3 ขณะที่วัคซีนไม่พอก็เป็นประเด็น จึงเป็นเหตุให้องค์การอนามัยโลกยังไม่แนะนำเข็ม 3 เพราะอยากให้ทั่วโลกได้รับวัคซีนให้เยอะพอ แต่ก็ขึ้นอยู่กับบริบท ความจำเป็นของแต่ละประเทศ
กทม.ยังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงสุด
ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 19,843 ราย ประกอบด้วย ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 14,832 ราย จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 4,592 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 398 ราย ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 21 ราย เสียชีวิต 235 ราย
สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศตั้งแต่ต้นปี 63 จนถึงล่าสุดอยู่ที่ 795,951 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มขึ้น 22,806 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 6,588 ราย
10 อันดับจังหวัดที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด ในประเทศรายใหม่สูงสุด
1.กรุงเทพมหานคร 4,226 ราย
2.สมุทรสาคร 1,639 ราย
3.สมุทรปราการ 1,006 ราย
4.ชลบุรี 1,005 ราย
5.นนทบุรี 959 ราย
6.ปทุมธานี 528 ราย
7.นครปฐม 509 ราย
8.พระนครศรีอยุธยา 396 ราย
9.อุบลราชธานี 387 ราย
10.สระบุรี 373 ราย
สสจ.เลย ย้ำฉีดวัคซีนให้นายทหารเสนารักษ์ ดูแลผู้ป่วยโควิด-19
กรณีที่มีผู้โพสต์เฟซบุ๊กภาพของทหารยศสิบเอก โพสต์แสดงเอกสารเข้ารับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ที่โรงพยาบาลเลย เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2564 ซึ่งเป็นวันแรกที่มีการฉีดวัคซีนยี่ห้อไฟเซอร์ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าจำนวนกว่า 1,000 คน นายปรีดา วรหาร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย ย้ำอีกครั้งว่า เป็นนายสิบพยาบาลหมวดพลเสนารักษ์ โรงพยาบาลค่ายศรีสองรัก จังหวัดเลย ซึ่งปฏิบัติงานอยู่ในค่ายศรีสองรัก ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาแล้วตั้งแต่ บรรจุทำงาน โดยทำงานเกี่ยวเนื่องกับการดูแลผู้ป่วย โควิด-19 ขอเรียนว่าผู้ป่วย โควิด-19 เรากระจายไปทั่วทุกโรงพยาบาลในจังหวัดเลย
สำหรับวัคซีน Pfizer ที่ทหารได้รับนั้นเป็นเรื่องจริงจำเป็นที่ต้องได้รับจริงเป็นไปตามกฎเกณฑ์ที่กระทรวงได้กำหนดไว้และมีข้อมูลว่าบุคลากรของโรงพยาบาลค่ายศรีสองรักทั้ง 77 คน รับวัคซีนไฟเซอร์ 62 คน จะแบ่งเป็นทั้งเข็มหนึ่งเข็มสองและบูสเตอร์มีรับเข็ม 1 อยู่ 4 คน เป็นการรับเพื่อกระตุ้นในโรงพยาบาลค่ายศรีสองรักษ์นี้จะมีตั้งแต่แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาลวิชาชีพก็เหมือนโรงพยาบาลชุมชนโรงพยาบาลทั่วไปก็มีบุคลากรรวม 77 คน ก็ยังยืนยันเหมือนเดิมว่า กลุ่มนี้เป็นบุคคลที่ทำหน้าที่จะต้องดูแลและก็ใช้ความร่วมมือของกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงกลาโหมในการเปิดโรงพยาบาลสนามในค่าย มทบ. 28
วัคซีนไฟเซอร์จะต้องฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ทั้งหมดใน จ.เลย 2,505 คน ตอนนี้ยังเหลือเพราะได้รับมาทั้งหมดกว่า 3,000 คน ส่วนที่เหลือก็เพราะบุคลากรทางการแพทย์บางคนได้รับเป็นบูสเตอร์เข็มสองช่วงเวลายังไม่ถึงก็ต้องรอเพื่อที่นำไปฉีดให้กับบุคลากรเหล่านี้
เดลตา ระบาดหนักในสหรัฐฯ ทำสถิติสูงสุดในรอบ 6 เดือน
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ยอดผู้ติดเชื้อและเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจากโรคโควิด-19 ในสหรัฐฯแตะระดับสูงสุดในรอบ หกเดือน เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาในหลายพื้นที่ของประเทศ รวมถึงอัตราการฉีดวัคซีนที่ระดับต่ำ
ข้อมูลด้านสาธารณสุข ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อของสหรัฐเฉลี่ยรายวันอยู่ที่ 100,000 รายต่อเนื่องมา 3 วัน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน ร้อยละ 35 โดยหากพิจารณาจากสัดส่วนประชากร รัฐหลุยเซียนา, ฟลอริดา และอาร์คันซอมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากที่สุดในช่วงสัปดาห์
ส่วนยอดผู้ป่วยที่รักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นร้อยละ 40 และเสียชีวิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 18 ในช่วงดังเวลากล่าว โดยรัฐอาร์คันซอ มีอัตราการเสียชีวิตสูงสุดเมื่อเทียบตามสัดส่วนประชากร
ขณะที่ รัฐฟลอริดา มีผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลมากที่สุดติดต่อกัน 8 วัน ขณะที่ นักเรียนส่วนใหญ่มีกำหนดกลับเข้าเรียนที่โรงเรียนในสัปดาห์นี้ โดยเขตพื้นที่การศึกษาบางแห่งยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะให้นักเรียนสวมหน้ากากอนามัยต่อไปหรือไม่
การระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรงขึ้นยังส่งผลให้การจัดงานสำคัญบางรายการต้องถูกยกเลิกไป อย่างไรก็ดี การแข่งขันมอเตอร์ไซค์ "Sturgis Motorcycle Rally" ในเมืองสเตอร์จิส รัฐเซาท์ดาโกต้า ยังคงจัดขึ้นตามกำหนดเดิม
ด้านคณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้กำหนดกฎเกณฑ์ใหม่เมื่อเดือนก.ค. โดยระบุให้เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน, เข้ารับการตรวจหาเชื้อเป็นประจำ, สวมหน้ากากอนามัย และปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการเดินทาง
สหรัฐฯชื่นชมญี่ปุ่น จัดโอลิมปิก
ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ยกย่องนายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ สึกะ แห่งญี่ปุ่นในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโตเกียวโอลิมปิกที่ "ประสบความสำเร็จ" ในระหว่างการพูดคุยกันทางโทรศัพท์ในวันนี้ และแสดงความสนับสนุนต่อมหกรรมกีฬาพาราลิมปิกซึ่งจะเปิดฉากขึ้นในปลายเดือนนี้
การแข่งขันกีฬาโตเกียวโอลิมปิกได้ปิดฉากลงเมื่อวันอาทิตย์ หลังจากที่มีการแข่งขันกีฬานานกว่า 2 สัปดาห์ที่จัดขึ้นท่ามกลางข้อจำกัดพิเศษในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แถลงการณ์จากทำเนียบขาว ระบุว่า ปธน.ไบเดน ยกย่องศักยภาพของนักกีฬาทุกคน โดยเฉพาะความสำเร็จของนักกีฬาโอลิมปิกชาวญี่ปุ่นและสหรัฐฯ"
กรุงโตเกียวเตรียมที่จะเป็นเจ้าภาพการแข่งขันพาราลิมปิกตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค. ถึง 5 ก.ย.นี้
นายสึกะกล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังการพูดคุยทางโทรศัพท์ว่า เขาและปธน.ไบเดน ยังยืนยันความร่วมมือในการพัฒนาอินโดแปซิฟิกที่ "เสรีและเปิดกว้าง" ต่อไป ท่ามกลางอิทธิพลของจีนที่แผ่ขยายเข้ามาในภูมิภาค