สายพันธุ์เดลตา ครองพื้นที่ทุกจังหวัดของไทย ส่วนเบตา จำกัดวงได้

          นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ชี้แจงผลการตรวจสายพันธุ์เชื้อโควิด-19

-กรุงเทพมหานคร พบสายพันธุ์เดลตา ร้อยละ 95.4  ที่เหลือร้อยละ 4.6 เป็นสายพันธุ์อัลฟา

-ต่างจังหวัด พบสายพันธุ์เดลตา ร้อยละ 83.2 สายพันธุ์อัลฟา ร้อยละ 16 ที่เหลือเป็นสายพันธุ์เบตา

-ภาพรวมของประเทศไทย พบสายพันธุ์เดลตา ร้อยละ 91.9  ทำให้บอกได้ว่า ผู้ติดเชื้อในประเทศทุกรายเป็นสายพันธุ์เดลตา จะเห็นได้จากกราฟขึ้นมาทุกสัปดาห์ ค่อนข้างเร็ว เนื่องจาก สายพันธุ์เดลตา มีอำนาจการแพร่เชื้อได้เร็ว และง่าย ครองพื้นที่ส่วนใหญ่

          อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า เจาะลึกสายพันธุ์เดลตา จะเห็นว่า วันนี้ 76 จังหวัด รวมกรุงเทพมหานคร  พบการติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา ยกเว้น จ.สุพรรณบุรี ที่ยังไม่พบการติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา อาจจะยังตรวจไม่เจอ หรือตรวจยังไม่ครบ ทำให้สรุปได้ว่า ทุกจังหวัดเจอสายพันธุ์เดลตา จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้พบผู้ป่วยจำนวนหลักหมื่น

          การติดเชื้อสายพันธุ์เบตา ที่พบในจังหวัดภาคใต้ ถือว่าควบคุมได้อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ผู้ติดเชื้อส่วนมากอยู่ในจ.นราธิวาส ที่เป็นจุดพบเชื้อจากคนที่ข้ามมาจากประเทศมาเลเซีย แต่อำนาจการแพร่เชื้อไม่มาก จำกัดวงได้

          ส่วนที่เคยพบการติดเชื้อสายพันธุ์เบตา นอกภาคใต้ที่ จ.บึงกาฬ จำนวน 5 คน ตอนนี้ควบคุมได้แล้ว เช่นเดียวกับ การพบที่กรุงเทพมหานคร รวม 3 คน ก็จบแล้ว ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม ไม่น่าเป็นปัญหานอกพื้นที่ของ จ.ชายแดนภาคใต้ แต่เราต้องระวังต่อไปว่าจะแพร่กระจายได้หรือไม่ ขอให้ทุกคนช่วยกัน

          ขณะที่ ประเทศไทย ยังไม่เจอการติดเชื้อสายพันธุ์แลมป์ดา แต่เราจะเฝ้าระวังในพื้นที่กักกันและควบคุม และตามแนวรอยต่อชายแดน

         การไปตรวจหาภูมิคุ้มกันหลังการฉีดวัคซีน อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เตือนว่า ไม่ควรไปตรวจ เพราะจะเสียค่าใช้จ่ายแพง ไม่คุ้ม เพราะเป็นการตรวจภูมิคุ้มกันธรรมดา ไม่ได้บอกว่า เป็นการตรวจภูมิคุ้มกันที่ปกป้องเชื้อโรคได้หรือไม่ หรือ สายพันธุ์ใด ขณะที่ แล็บตรวจแต่ละที่ก็มีค่าของตัวเลขแตกต่างกัน และ องค์การอนามัยโลก ก็ยังไม่ได้กำหนดเป็นมาตรฐานว่าจำเป็นจะต้องไปตรวจ

แฟ้มภาพ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์