ประเด็นงานวิจัยฟ้าทะลายโจร พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ยืนยันว่า จากการศึกษาประสิทธิภาพและความปลอดภัยของฟ้าทะลายโจรสกัดในผู้ป่วยที่เป็นโควิด-19 ที่ไม่มีอาการรุนแรง โดยเราได้ส่งข้อมูลเอกสารไปวารสารวิชาการรอให้มีการตีพิมพ์ต่อไป แต่ระหว่างนั้นก็มีการเก็บข้อมูลเชิงรายละเอียด ซึ่งพบข้อผิดพลาดของตัวเลขเล็กน้อย จึงได้ดึงข้อมูลตัวนี้ออกมา ไม่ได้ถูกปฏิเสธจากวารสารก่อนการตีพิมพ์แต่อย่างใด หากย้อนกลับไปในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ใหม่ๆ ไม่มียาตัวไหนที่มีความชัดเจนที่จะได้รับรองอย่างเป็นทางการว่าจะสามารถกำจัดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้โดยตรง ดังนั้นทีมงานนักวิจัยได้พยายามค้นหาข้อมูลที่มีความครบถ้วน รักษาโควิด-19 ได้ ในประเทศไทยได้หยิบตัวยาฟ้าทะลายโจรซึ่งมีคำตอบในระดับห้องทดลองมาวิจัยกันต่อเนื่อง มีการทดลองใช้สารสกัดฟ้าทะลายโจรกับผู้ป่วยโควิด-19 พบว่ามีผลลัพธ์ที่ดีในการลด การพัฒนาของโรคไม่ให้เดินหน้ารุนแรงไปจนกระทั่งเกิดปอดอักเสบ
สำหรับการทดลองเป็นแบบสุ่มโดยแบ่งผู้ป่วยออกเป็น 2 กลุ่ม
1.ใช้ยาสารสกัดฟ้าทะลายโจรในผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการเล็กน้อยอายุ 18-60 ปี
2.กลุ่มที่ไม่ได้รับยาฟ้าทะลายโจร แต่ให้ยาหลอก
ผลลัพธ์ออกมาว่ากลุ่มที่ได้รับสารสกัดฟ้าทะลายโจร 29 คน พบว่า ผู้ป่วยทุกคนไม่เป็นโรคปอดอักเสบ โดยจะมีการผลักดันการศึกษาต่อเนื่อง นำไปสู่ข้อเสนอแนะในเชิงนโยบายในลำดับถัดไป แต่อีกด้านหนึ่งทางนักวิจัยต้องขยับงานวิจัยชิ้นนี้ให้เป็นผลงานที่นำไปแบ่งปันเพื่อนนักวิจัยในแวดวงอื่นๆด้วย จึงต้องมีการคิดค่าคำนวณต่างๆ โดยในเอกสารการวิจัยที่เสนอ
ประเด็นปัญหาอยู่ที่ค่านัยยะสำคัญทางสถิติที่คำนวณได้ในครั้งแรกมีความคลาดเคลื่อนซึ่งตอนแรกใส่ไว้ว่าคำนวณได้ว่าเป็น 0.03 แล้วนำเสนอไป โดยเมื่อกลับมาพิจารณาใหม่จึงค้นพบว่าตัวเลขต้องเป็น 0.112
ดังนั้นทีมนักวิจัยไทย กรมการแพทย์แผนไทยฯได้ค้นพบความผิดพลาดของสถิติในจุดที่ว่านี้ จึงขอดึงงานวิจัยนี้ออกมา ไม่ได้ถูกปฏิเสธหรือถูกส่งคืนกลับมาจากวารสาร รวมถึงผลการวิจัย และเนื้อหาทั้งหมดยังคงเป็นไปตามรายงานฉบับแรกอยู่ และเมื่อปรับปรุงตัวเลขให้เรียบร้อย ก็จะมีการส่งกลับไปที่วารสารอีก ดังนั้นสารสกัดฟ้าทะลายโจรมีแนวโน้มที่ดีเช่นเดิมในการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 ในระยะเริ่มต้น