จากที่รัฐบาลสหรัฐ และครอบครัวของนางสาวเคย์ลา จีน มุลเลอร์ อาสาสมัครชาวอเมริกัน ยืนยันว่านางสาวมุลเลอร์เสียชีวิตแล้ว และมีการเปิดเผยจดหมายฉบับสุดท้ายที่เธอส่งถึงครอบครัว แต่ไม่มีการยืนยันคำประกาศของกลุ่มไอเอสอ้างว่า เธอเสียชีวิตจากการที่เครื่องบินรบของจอร์แดนทิ้งระเบิดโจมตีอาคารหลังหนึ่งในเมืองรักกา
นางสาวมุลเลอร์ อายุ 26 ปีเป็นอาสาสมัครชาวอเมริกันที่เคยทำงานในอินเดีย อิสราเอล และปาเลสไตน์ จากนั้นในปี 2555 ก็ไปช่วยเหลือผู้ลี้ภัยสงครามกลางเมืองซีเรีย แต่ในเดือนสิงหาคมปีต่อมาที่เมืองอเลปโป เธอก็ถูกกลุ่มไอเอส ลักพาตัวไปขณะออกมาจากโรงพยาบาลขององค์การแพทย์ไร้พรมแดน และเรียกเงินค่าไถ่ 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่สถานการณ์ที่เกิดหลังจากนั้นไม่มีการยืนยันที่แน่ชัด กระทั่งเมื่อวันศุกร์ของสัปดาห์ก่อนกลุ่มไอเอสก็ประกาศว่าเธอเสียชีวิตแล้ว และเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ก็มีสมาชิกกลุ่มไอเอสที่เป็นควบคุมตัวนางสาวมุลเลอร์ส่งจดหมายที่เขียนด้วยลายมือของเธอมาให้ครอบครัว โดยในจดหมายซึ่งระบุว่าเขียนขึ้นเมื่อปีก่อน บอกว่า เธอได้รับการดูแลเป็นอย่างดี และขอขอบคุณทุกคน ซึ่งครอบครัวของนางสาวมุลเลอร์ ระบุในคำแถลงว่า ครอบครัวมีความเสียใจอย่างยิ่ง และว่านางสาวมุลเลอร์เป็นผู้ที่อุทิศตนให้กับการทำงานด้านมนุษยธรรม เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ต้องการเสรีภาพ ความยุติธรรมและสันติภาพ นอกจากนี้ครอบครัวและเพื่อน ยังอ่านข้อความจากบล็อคข่าวที่เขียนไว้ก่อนที่จะถูกลักพาตัวไป ซึ่งเป็นการเรียกร้องให้ทุกคนร่วมกันหยุดความรุนแรง
ทั้งนี้ ทางสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ เพิ่มเติมว่า นอกจากจดหมายแล้ว สมาชิกกลุ่มไอเอส ยังส่งภาพศพของนางสาวมุลเลอร์มาให้ครอบครัวด้วย
ด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐอเมริกา ออกแถลงการณ์แสดงความไว้อาลัยต่อการเสียชีวิตของนางสาวมุลเลอร์ และประกาศว่า ไม่ว่าจะใช้เวลานานเท่าใดก็ตาม สหรัฐอเมริกาจะตามหาและนำตัวผู้ก่อการร้าย มาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้ ด้านนายจอร์จ เออร์เนสต์ โฆษกทำเนียบขาว ปัดข้อสงสัยว่า เธออยู่ในอาคารที่ถูกกองทัพจอร์แดนโจมตีจริงหรือไม่ โดยชี้ว่า ความสูญเสียนี้เกิดจากการที่กลุ่มไอเอสลักพาตัวนางสาวมุลเลอร์ เช่นเดียวกับ โฆษกรัฐบาลจอร์แดน ที่ร่วมแสดงความเสียใจและมีความโกรธแค้นอย่างยิ่งต่อความสูญเสีย ส่วนผู้ว่าการรัฐแอริโซน่า ซึ่งเป็นรัฐบ้านเกิดของนางสาวมุลเลอร์ มีประกาศให้สถานที่ราชการลดธงครึ่งเสาเพื่อร่วมไว้อาลัย
..F163..