ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา 07.30น.วันพฤหัสบดีที่ 5 สิงหาคม 2564

05 สิงหาคม 2564, 06:46น.


นักวิจัย สวทช. ทำสำเร็จ ! พัฒนาวัคซีน 2 in 1 สร้างภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 และไข้หวัดใหญ่



          กลุ่มนักวิจัยของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ตั้งข้อสันนิษฐานว่าโควิด-19 จะอยู่กับเราไปเรื่อยๆ ซึ่งอาจทำให้เราต้องฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันในทุกๆ ปี คล้ายกันกับไข้หวัดใหญ่ จึงเป็นที่มาของการวิจัยและพัฒนาวัคซีน 2 in 1 เพื่อฉีดให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันทั้ง 2 โรค ในเวลาเดียวกัน



          การพัฒนาวัคซีนชนิดดังกล่าว จะเป็นตัวตั้งต้นในการต่อยอดงานวิจัยวัคซีนโควิด-19 ของไทยในอนาคตได้เป็นอย่างดี โดยเราอาจจะมีวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่ฉีดเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันอย่างที่เคยมีมาในทุกปี ที่มันสามารถสร้างภูมิคุ้มกันการติดเชื้อโควิด-19 ได้ด้วย



          และล่าสุด ทีมนักไวรัสวิทยา และเซลล์เทคโนโลยี ของ สวทช. เปิดเผยว่า วัคซีนต้นแบบ 2 in 1 ซึ่งสามารถสร้างภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 และไข้หวัดใหญ่ ได้รับการตีพิมพ์ลงวารสารทางวิชาการแล้ว



         นักวิจัยของ สวทช. ระบุว่า วัคซีน 2 in 1 จะช่วยให้ลดขั้นตอนและประหยัดเวลาในการฉีดวัคซีนมากขึ้น เนื่องจาก วัคซีนเป็นชนิดฉีดโดสเดียวจบ ไม่ต้องกังวลเรื่องระยะการฉีดระหว่างโดส แต่อาจจะต้องมีการฉีดวัคซีนตัวดังกล่าว เพื่อให้ร่างกายกระตุ้นภูมิคุ้มกันเรื่อยๆ ในทุกปี



          การพัฒนาวัคซีนตัวนี้ ใช้โครงสร้างของไวรัสไข้หวัดใหญ่ โดยจะมีส่วนโปรตีน HA ซึ่งสร้างภูมิคุ้มกันต่อไข้หวัดใหญ่ และส่วน Spike ซึ่งสร้างภูมิคุ้มกันต่อการติดเชื้อโควิด-19 ยื่นออกมา 



         ในส่วนของการสร้างภูมิคุ้มกันโควิด-19  วัคซีนตัวนี้ พัฒนาขึ้นจากสายพันธุ์ดั้งเดิมหรือสายพันธุ์อู่ฮั่นจึงมีผลยับยั้งได้ดีแค่ในเชื้อสายพันธุ์ดังกล่าว และจะมีประสิทธิภาพลดลงไปตามสายพันธุ์กลายพันธุ์อื่นๆ สอดคล้องกับงานวิจัยที่มีการเผยแพร่ต่างๆ มาก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี วัคซีน 2 in 1 นี้ สามารถทำการพัฒนาไปตามสายพันธุ์ต่างๆ ได้



รพ.ไหน ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ บูสเตอร์เข็ม 3 แล้วฉีดได้เลย  รพ.ศิริราช เตรียมฉีด 11 ส.ค.



          กระทรวงสาธารณสุข ทยอยกระจายวัคซีนไฟเซอร์ที่ได้รับมาจากสหรัฐฯส่งให้ครบทุกจังหวัด เพื่อเร่งฉีดกระตุ้นเข็ม 3 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะทำงานด้านบริหารจัดการการให้บริการวัคซีนป้องกันโควิด-19 กรณีวัคซีนไฟเซอร์ คาดว่า กรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะได้รับก่อน จากนั้นจะทยอยส่งให้ครบทุกจังหวัด คาดว่า จะดีเดย์ฉีดพร้อมกันทั่วประเทศใน 2-3 วันนี้ พื้นที่ไหนได้รับวัคซีนแล้วฉีดก่อนได้เลย เรื่องความโปร่งใสการฉีด แต่ละโรงพยาบาลตรวจสอบรายชื่อบุคลากรที่มีความประสงค์รับวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ได้ ประชาชนทั่วไปตรวจสอบข้อมูลได้เช่นกัน เนื่องจาก เมื่อมีการฉีดวัคซีนทุกโดสจะต้องมีการรายงานผลเข้ามาที่ MOPH IC ของกระทรวงสาธารณสุข



          นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาการสาธารณสุข ลงนามการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ไปยัง 76 จังหวัด รวม 322,800 โดส กรุงเทพมหานคร อีก 120,000 โดส ในสถานพยาบาล 162 แห่ง ซึ่งเป็นเพียงการจัดส่งในรอบแรก 4-6 ส.ค. 64  อัตราการจัดส่งคิดเป็น ร้อยละ 50-70 เป็นยอดจากการสำรวจเมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นตัวเลขที่จังหวัดส่งขึ้นมาเทียบกับฐานข้อมูลบุคลากรที่กระทรวงสาธารณสุขมีอยู่



          ขณะที่ ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า วัคซีนไฟเซอร์ที่จะบูสเตอร์เป็นเข็ม 3 ให้กับบุคลากรแพทย์ด่านหน้า จัดส่งมาถึงโรงพยาบาลศิริราชแล้วและเตรียมวางแผนฉีดในสัปดาห์หน้า ประมาณวันที่ 11 ส.ค.64 โดยจะจัดคิวไม่ให้เกิดความแออัด อาจเป็นการแจกคูปองให้กับบุคลากรด่านหน้าในการมารับวัคซีน



กรมควบคุมโรค เผยข้อมูลช่วงเดือนเม.ย.-ก.ค.บุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อกว่า 1,000 คน



         นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึง สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ว่า การติดเชื้อโควิด-19 จากสายพันธุ์เดลตาที่ติดต่อได้ง่ายและแพร่กระจายได้เร็วกว่าสายพันธุ์แอลฟาถึงร้อยละ 60 ทำให้มีการติดเชื้อกันเป็นจำนวนมาก  



-ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.- วันที่ 7 ก.ค.64 พบว่าบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อจำนวน 1,064 คน



-เป็นผู้ที่มีอาการป่วยจำนวน 491 คน ส่วนใหญ่เป็นพยาบาลวิชาชีพ แพทย์ และผู้ช่วยพยาบาล



-สาเหตุการติดเชื้อส่วนใหญ่ติดจากการปฏิบัติงานในโรงพยาบาล จากภาระงานจำนวนมาก ทำให้เหนื่อยล้า รวมทั้งผู้ป่วยปิดบังข้อมูล ทำให้เกิดความเสี่ยงติดเชื้อสูงขึ้น และอีกสาเหตุ คือ ติดมาจากชุมชน เพื่อนร่วมงาน หรือติดจากคนในบ้าน จึงต้องเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันให้มีความรัดกุมมากที่สุด



         การเร่งป้องกันปัญหาในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ นอกจากการฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพให้ครอบคลุมและกระตุ้นเข็มที่ 3 แล้ว ยังต้องเพิ่มระบบการตรวจคัดกรองแยกผู้ป่วยด้วยชุดทดสอบ Antigen Test Kit : ATK เพื่อให้รู้ได้เร็วที่สุด และการใช้อุปกรณ์สวมชุดป้องกันขณะปฏิบัติงาน พร้อมทั้งเน้นความรู้ด้านวิชาการ โดยกรมควบคุมโรคได้มอบหมายให้สถาบันบำราศนราดูร จ.นนทบุรี ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในด้านนี้ ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของกรมควบคุมโรค จัดอบรมวิชาการออนไลน์ เรื่องการป้องกันการติดเชื้อโควิด- 19 ให้แก่แพทย์ พยาบาล ที่ปฏิบัติงานดูแลรักษาผู้ป่วยโรคโควิด -19



WHO ขอให้แบ่งปันวัคซีนให้ปท.ยากจน ชะลอฉีดเข็ม 3 ไปก่อน



          นพ.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) เรียกร้องให้ประเทศร่ำรวยระงับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 บูสเตอร์หรือโดสที่ 3 ไปจนถึงสิ้นเดือนก.ย.64 เพื่อขยายอัตราการฉีดวัคซีนให้ประชาชนในประเทศยากจนได้อย่างน้อยร้อยละ 10



         การเรียกร้องในครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่ช่องว่างระหว่างอัตราการฉีดวัคซีนในประเทศที่ร่ำรวยและยากจนกว้างขึ้น ขอเรียกร้องให้แบ่งปันวัคซีนส่วนนี้ไปให้กับประเทศยากจน



-เมื่อวันจันทร์ (2 ส.ค.) เยอรมนี เปิดเผยว่า จะเริ่มการฉีดวัคซีนโดสที่ 3 ให้แก่บุคคลที่มีสุขภาพอ่อนแอ



-สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จะเริ่มให้วัคซีนโดสที่ 3 แก่บุคคลกลุ่มเสี่ยงสูงใน 3 เดือน หลังจากฉีดวัคซีนโดสที่ 2 แล้ว และ 6 เดือนสำหรับบุคคลทั่วไป



-ประธานาธิบดีไอแซก เฮอร์ซ็อก ของอิสราเอล ได้รับวัคซีนโดสที่ 3 แล้ว เพื่อเริ่มต้นการรณรงค์วัคซีนโดสที่ 3 ให้คนที่มีอายุมากกว่า 60 ปี



-สหรัฐฯ มีการลงนามสั่งซื้อวัคซีนเพิ่มเติมจากไฟเซอร์ อิงค์ อีก 200,000,000 โดสเมื่อเดือนก.ค.64 หน่วยงานกำกับดูแลด้านสุขภาพ อยู่ระหว่างการประเมินความจำเป็นของการฉีดวัคซีนโดสที่ 3

ข่าวทั้งหมด

X