นายโนริฮิสะ ทามูระ รัฐมนตรีสาธารณสุขของญี่ปุ่น เปิดเผยในวันนี้ (4 ส.ค.) ว่ารัฐบาลอาจพิจารณายกเลิกมาตรการสำรองเตียงผู้ป่วยในโรงพยาบาลให้กับผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรง โดยให้ผู้ป่วยที่มีอาการน้อยและไม่มีอาการกักตัวที่บ้านซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก
เมื่อวันจันทร์ (2 ส.ค.) นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ สึกะ ออกประกาศมาตรการใหม่เพื่อสำรองเตียงผู้ป่วยเพื่อรองรับผู้ป่วยที่มีแนวโน้มเพิ่มจำนวนมากขึ้น เนื่องจากไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตา ซึ่งนายทามูระ กล่าวว่า มาตรการนี้จะเป็นการสร้างความมั่นใจได้ว่าจะมีเตียงในโรงพยาบาลสำหรับผู้ที่ต้องการการดูแลอย่างเข้มข้น ในการระบาดที่เข้าสู่ระยะใหม่ แต่หากสถานการณ์ไม่เป็นไปตามคาดการณ์ ก็สามารถยกเลิกนโยบายได้
อย่างไรก็ตาม มีชาวญี่ปุ่นจำนวนมากไม่พอใจนโยบายของรัฐบาลในการควบคุมโควิด-19 และทำให้รัฐบาลมีคะแนนนิยมลดลงก่อนที่จะการเลือกตั้งทั่วไปที่จะจัดขึ้นในปีนี้ โดยในวันนี้ พรรคการเมืองฝ่ายค้านยังมีความเห็นพ้องในข้อเรียกร้องให้รัฐบาลละทิ้งมาตรการรักษาตัวในโรงพยาบาล ส่วนพรรคนิวโคเมอิโตะ ที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็ร่วมเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนมาตรการ
ญี่ปุ่นพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โตเกียวซึ่งมีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากที่สุดเท่าที่เคยมีการรายงานที่ 4,058 คนเมื่อวันเสาร์ (31 ก.ค.) และเมื่อวันอังคาร (3 ส.ค.) มีผู้ป่วยรายใหม่ 3,709 คน แต่นายกรัฐมนตรีสึกะ และคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2020 ต่างระบุว่า การแข่งขันกีฬาจัดในระบบปิดจึงไม่มีส่วนเกี่ยวการพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น แต่นพ.ชิเงรุ โอมิ ที่ปรึกษาทางการแพทย์ชั้นนำของญี่ปุ่น กล่าวต่อที่ประชุมรัฐสภาว่าการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬา กำลังทำลายมาตรการควบคุมโรคระบาดที่ขอให้ประชาชนอยู่บ้าน ทำให้มีคลัสเตอร์โควิด-19 ที่ขยายวงกว้างมากขึ้น ทั้งที่โรงเรียนและสำนักงาน
...