*มทบ.33 แจงไม่ได้ค้นรถอดีตนายกฯ /ปปช.ส่งหนังสือ เรียกยิ่งลักษณ์ฟ้องศาลคดีจำนำข้าว 19 ก.พ.นี้/ตรุษจีนผลไม้แพง*

10 กุมภาพันธ์ 2558, 19:59น.


สรุปข่าว 18.00 น



++++หลังมีกระแสข่าว การตรวจค้นรถน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่จ.เชียงใหม่ พล.ต.ธนา จารุวัต เสนาธิการกองทัพภาคที่ 3 ในฐานะโฆษกกองทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า เป็นการตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด หรือด่านตรวจความมั่นคงตามปกติร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะตั้งด่านตั้งแต่เวลา 22.00 น.-12.00 น. ของอีกวัน เพื่อรักษาความปลอดภัย ประกอบกับมีกระแสข่าวเรื่องยาเสพติดและความเคลื่อนไหวที่จะก่อความวุ่นวาย จึงต้องมีความเข้มงวดกวดขัน โดยไม่ได้เป็นการเจาะจงบุคคลแต่อย่างใด



+++ขณะที่ พล.ต.ศรายุธ รังษี ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 (ผบ.มทบ.33) เปิดเผยว่า ทหารไม่ได้ตรวจค้นรถ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะให้เกียรติ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยเมื่อเข้าพื้นที่ แต่ยอมรับมีการตรวจค้นรถในขบวน แต่ไม่ได้แตะต้องรถอดีตนายกรัฐมนตรีเลย รวมทั้งการจัดรถทหารตามประกบ เป็นเพียงการดูแลรักษาความปลอดภัยเมื่อมีบุคคลระดับ VIPเข้าพื้นที่เท่านั้น  โดยต้องขออภัย หากทำให้อดีตนายกฯ ไม่สบายใจ แต่เบื้องต้น ได้สั่งยกเลิกด่านจุดตรวจดังกล่าวแล้ว ขอชี้แจงว่า ทหารมีวิธีดูแลรักษาความปลอดภัยบุคคลระดับวีไอพี ในพื้นที่ตามระเบียบอยู่แล้ว และไม่ได้เป็นการตามประกบ อย่าคิดมากว่าทหารตามเพราะกลัวหนีออกนอกประเทศ แต่เป็นการดูแลบุคคลสำคัญตามระเบียบเท่านั้น



++++หลังรูเพิร์ต แอ็บบอต ผู้อำนวยการงานวิจัยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลที่ทหารให้อำนาจกับตัวเองสั่งควบคุมบุคคลโดยพลการพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า แล้วแต่มุมมอง แต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ทราบดีว่าไม่ได้ละเมิดสิทธิและเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของประเทศ  ยืนยันว่าไม่ได้เพิ่มอำนาจให้ตัวเอง เพราะการใช้กฎอัยการศึก ไม่ได้ออกข้อกำหนดเพิ่มและใช้อำนาจเท่าที่จำเป็น ส่วนการออกมาประท้วงนายกรัฐมนตรีที่ญี่ปุ่น เป็นความเห็นต่างของบุคคลที่เราต้องรับฟัง แต่ต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวมภายในประเทศด้วย พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า คนไทยทุกคนคาดหวังให้มีประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ไม่แตกต่างกับที่สหรัฐอเมริกาเรียกร้อง แต่ต้องเป็นประชาธิปไตยอย่างยั่งยืนและมีกฎหมายรองรับ หากการร่างรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้น สามารถเดินหน้าสู่การเลือกตั้งเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริงได้



+++ความคืบหน้าในการส่งหนังสือเรียกตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกชี้มูลความผิดทางอาญา กรณีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว ให้แก่อัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินการส่งฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ในวันนี้  เลขาฯ ป.ป.ช.ได้ส่งหนังสือให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพื่อให้ไปรายงานตัวต่อ อสส.ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 10.00 น. เพื่อนำตัวส่งฟ้องต่อศาลฎีกาฯหากไม่เดินทางมา อัยการสูงสุดจะส่งฟ้องเลย ซึ่งก็เป็นเรื่องของศาลฎีกาฯ ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป



ส่วนความคืบหน้าในการส่งสำนวนคดีอาญา นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ กับพวก ที่ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดกรณีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) โดยมิชอบ ให้แก่ อสส.ว่า ขณะนี้กรรมการ ป.ป.ช. ได้ลงลายชื่อในสำนวนเสร็จหมดแล้ว ขณะนี้กำลังให้เจ้าหน้าที่รีบประสานกับ อสส.อยู่ เนื่องจากต้องส่งสำนวนหลังวันที่ประชุมมีมติรับรองภายใน 14 วัน ซึ่งคาดว่าจะส่งสำนวนให้ อสส. ได้ภายในสัปดาห์หน้า



+++นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ได้แถลงถึงมติที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. (องค์คณะไต่สวน) ได้พิจารณาสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีกล่าวหานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ          เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี สั่งใช้กำลังทหาร ตำรวจ และข้าราชการพลเรือน เข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในวันที่ 10 เมษายน 2553 ถึงวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 แล้วเห็นว่าข้อเท็จจริงยังไม่สมบูรณ์เพียงพอที่จะวินิจฉัยได้ในวันนี้ และมีกรณีต้องพิจารณาประเด็นข้อกฎหมายตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 17 จึงให้มีการสรุปสำนวนเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. (องค์คณะไต่สวน) พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ภายในเวลา 2 สัปดาห์



+++กรณี 28 สายการบินพาณิชย์ของไทย อาจโดนสั่งห้ามบินไปหลายประเทศ เนื่องจากไม่ได้ทำตามมาตรฐาน ICAO (The International Civil Aviation Organization) นายสมชาย พิพุธวัฒน์ อธิบดีกรมการบินพลเรือน (บพ.) กล่าวถึงกระแสข่าวยืนยันว่า สายการบินพาณิชย์ของไทยได้รับรองมาตรฐานความปลอดภัย ซึ่งเป็นการตรวจสอบของกรมการบินพลเรือน ขณะที่องค์กรรับรองมาตรฐานการบินพลเรือนนานาชาติ ICAO ไม่มีสิทธิตรวจสอบสายการบินพาณิชย์ และไม่มีสิทธิสั่งห้ามทำการบินในประเทศอื่น เพราะถือเป็นอำนาจการตรวจสอบภายในแต่ละประเทศ



ส่วนการที่  ICAO ซึ่งเป็นองค์กรที่ควบคุมมาตรฐานการออกใบอนุญาตเกี่ยวกับการบินพลเรือนในระดับสากล ได้เข้ามาตรวจสอบมาตรฐานของกรมการบินพลเรือน เมื่อวันที่ 19-30 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น คาดว่าจะแจ้งข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญ (SSC) ในวันที่ 14 ก.พ. เป็นการแจ้งภายใน ซึ่งไทยต้องดำเนินการตอบรับและเสนอแผนดำเนินการแก้ไขให้ ภายใน 15 วัน จากวันที่แจ้ง แต่หากไทยแก้ไขไม่ได้ตามแผน ICAO จะส่งหนังสือแจ้งเพื่อที่จะประกาศแก่สาธารณะผ่านทางเว็บไซต์ ICAOในวันที่ 30 พ.ค. 58



+++คาดว่า ประเด็นที่ ICAO จะให้ไทยแก้ไขมี 3 ประเด็น ที่สำคัญ คือ การที่กรมการบินพลเรือน รวมทั้งงานกำกับกิจการและการบริหารจัดการไว้หน่วยงานเดียวกัน จะทำให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อน  โดยส่วนตัวเห็นด้วยที่ควรจะแยกออกจากกัน แต่ในทางปฏิบัติทำได้ยาก เพราะการบริหารสนามบินภูมิภาค 28 แห่งดำเนินการเชิงสังคมและความมั่นคง มีเพียงระยะหลังที่มีเที่ยวบินพาณิชย์เข้ามาบ้าง โดยสนามบินที่ทำกำไรได้ขณะนี้ ได้แก่ กระบี่ สุราษฎร์ธานี อุดรธานี นครศรีธรรมราช แต่หากตัดสนามบินที่ทำกำไรออกไปให้หน่วยงานอื่น สนามบินที่ขาดทุนก็จะไม่มีงบประมาณเลี้ยงตัว แต่หากเสนอให้ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) รับไปบริหารหมดทั้ง 28 แห่ง ก็คงไม่ได้ เพราะ AOT เป็นบริษัทมหาชน ที่มุ่งทำกำไร การนำสนามบินที่มีผลขาดทุนรวมไปด้วยคงไม่ได้รับการตอบรับ



+++นายสุชาติ สินรัตน์ รองอธิบดี กรมการค้าภายใน กล่าวว่า ใกล้ช่วงเทศกาลตรุษจีนผลไม้อาจมีราคาปรับสูงขึ้นบ้างตามกลไกตลาด เช่น ส้ม ราคาปรับตัวสูงขึ้น แต่มีหลายระดับราคาตามคุณภาพตั้งแต่กิโลกรัมละ 100 บาท และ 3 กิโลกรัม 100 บาท คาดว่าตรุษจีนปีนี้อาหารน่าจะราคาต่ำกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากผลผลิตมีมากขึ้น วัตถุดิบราคาถูกลง และประชาชนเลือกจับจ่ายซื้อของตามคุณภาพของสินค้า กรมการค้าภายในมีแผนออกตรวจสอบราคาอาหารที่ตลาดสดเยาวราชและสั่งการให้การค้าภายในจังหวัดทั่วประเทศออกตรวจสอบปริมาณสินค้าไม่ให้ขาดแคลนและจำหน่ายราคาเหมาะสม เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคา



+++ศาลปกครองเชียงใหม่ออกนั่งบัลลังก์ อ่านคำพิพากษา ศาลปกครองสูงสุด ในคดีโรงไฟฟ้าแม่เมาะ จังหวัดลำปาง โดยศาลปกครองสูงสุดได้พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้น โดยให้ กฟผ. ทำการติดตั้งม่านน้ำเพื่อลดฝุ่นละอองในบรรยากาศ ความยาว 800 เมตร ระหว่างที่ทิ้งดินด้านทิศตะวันออกและด้านทิศตะวันตก พร้อมให้จัดตั้งคณะทำงานระดับท้องถิ่นและผู้เชี่ยวชาญร่วมกันพิจารณาในการอพยพราษฎรที่ได้รับผลกระทบที่อาจนำไปสู่อันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน และมีความประสงค์จะอพยพในการอพยพหมู่บ้านออกนอกรัศมีผลกระทบ 5 กิโลเมตร และให้ฟื้นฟูขุมเหมืองให้ใกล้เคียงกับสภาพเดิมตามธรรมชาติ โดยการถมดินกลับในบ่อเหมืองให้มากที่สุดและปลุกป่าทดแทน ในส่วนที่มีการนำไปทำเป็นสวนพฤกษชาติและสนามกอล์ฟ 



+++ส่วนมาตรการรายงานการตรวจประเมินสิ่งแวดล้อมนั้นให้กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ซึ่งเป็นผู้ถูกฟ้องที่ 3 ตรวจสอบกำกับดูแลการประกอบกิจการของ กฟผ.ให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขในการออกประทานบัตรและมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการเหมืองลิกไนต์แม่เมาะ หากกทาง กฟผ.ไม่ปฏิบัติตามให้กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตาม ไม่ได้สั่งให้มีการจ่ายเงินชดเชยเยียวยาค่าเสียหายต่างๆ แก่ผู้ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ ให้มีการดำเนินการตามคำพิพากษาภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา



+++ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย กล่าวว่า ปัญหาขัดแย้งในยูเครนจะยุติลงได้ ถ้าหากรัฐบาลยูเครนนั่งโต๊ะเจรจาโดยตรงกับตัวแทนกลุ่มที่เรียกตนเองว่าสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์และลูกานสก์ กลุ่มกบฏทางภาคตะวันออกของยูเครน ผู้นำรัสเซียยังกล่าวถึงองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ(นาโต)ว่า ไม่ปฏิบัติตามคำมั่นที่ว่านาโตจะไม่แผ่ขยายพื้นที่เข้าไปยังยุโรปตะวันออก ระบุว่า ที่ผ่านมานาโตไม่คำถึงผลประโยชน์แห่งชาติของรัสเซียแต่อย่างใด



+++ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันนี้ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดวัน สอดคล้องทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นทั่วภูมิภาค โดยได้รับผลกระทบจากความกังวลสถานการณ์เศรษฐกิจในกรีซ หลังนายกรัฐมนตรีประกาศไม่ยอมรับความช่วยเหลือทางการเงิน ประกอบกับเผชิญแรงขายทำกำไร ในกลุ่มพลังงาน และสื่อสาร อีกปิดตลาดที่1,594.96 จุดลดลง6.81 จุด มูลค่าซื้อขาย51,244.31 ล้านบาท



+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดปรับตัวลงในวันนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการประชุมยูโรโซนเพื่อชี้ชะตาด้านการคลังของกรีซ และการเจรจา 4 ฝ่ายเพื่อหารือเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในยูเครน ปิดตลาดลดลง 59.25 จุด ที่ 17,652.68 จุด



+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดเพิ่มขึ้น 7.10 จุด ที่ 24,528.10 จุด

ข่าวทั้งหมด

X