นายกฯ สั่งช่วยเหลือทหารเสียชีวิต 1 เจ็บ 4 ปะทะคนร้ายที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงความเสียใจกับกำลังพล ร้อย ทพ. 4514 ที่บาดเจ็บ 4 นาย และเสียชีวิต 1 นาย จากการถูกซุ่มโจมตีของผู้ก่อการร้ายในพื้นที่ บ้านแฆแบะ ต.นานาค อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ขณะปฏิบัติภารกิจป้องกันการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายชายแดนไทย-มาเลเซีย เมื่อเวลา 02.20 น. พล.อ.ประยุทธ์ ได้กำชับกองทัพบกและกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า) ให้การช่วยเหลือดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 4 นาย อย่างดีที่สุด รวมทั้งขอให้ช่วยเหลือดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างเต็มกำลังและสนับสนุนการจัดพิธีทางศาสนาอย่างสมเกียรติ
พร้อมกันนี้ ยังย้ำการปฏิบัติหน้าที่ว่า ขอให้อดทนและใช้ความพยายามเจรจาพูดคุยกันด้วยความเข้าใจ ไม่ใช้ความรุนแรงต่อกัน รวมถึงให้เพิ่มความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ และเร่งติดตามผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยเร็ว
กลุ่มคนร้ายได้ใช้ระเบิดแสวงเครื่องชนิดขว้าง ขว้างใส่ทหารกองกำลังเฉพาะกิจ และซุ่มยิงด้วยอาวุธปืน โดยได้เกิดการปะทะกัน ประมาณ 15 นาที ในเบื้องต้น มีเจ้าหน้าที่ทหารพลีชีพ 1 นาย บาดเจ็บ 4 นาย นำส่งโรงพยาบาล สุไหงโก-ลก ในต่อมา และ บริเวณบ้านโคกยาง ม.5 ต.พร่อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ได้มีกลุ่มคนร้าย วางระเบิดเสาไฟฟ้า ทำให้เสาไฟฟ้าหักโค่นเกิดไฟฟ้าดับในวงกว้าง
ทีม Bangkok CCRT เคาะประตูบ้านแล้วกว่า 2,000 ชุมชน
ทีมป้องกันและแก้ไขปัญหาโควิด-19 เชิงรุกในชุมชน Bangkok Comprehensive Covid-19 Response Team (Bangkok CCRT) โดยมีทีมหลัก 163 ทีม และทีมสนับสนุน 97 ทีม รวม 260 ทีม ลงพื้นที่ชุมชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 15 ก.ค. - 20 ส.ค. 64 เพื่อค้นหากลุ่มเสี่ยงในชุมชน ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค และหญิงตั้งครรภ์ และดำเนินการฉีดวัคซีนแก่กลุ่มเสี่ยง ให้บริการตรวจคัดกรองค้นหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในชุมชน ด้วยชุดตรวจ Antigen Test Kit ให้การรักษาพยาบาลเบื้องต้นก่อนส่งต่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
ภาพรวมผลการดำเนินการ Bangkok CCRT ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค. - 2 ส.ค. 64 ลงพื้นที่ชุมชนแล้ว 2,092 แห่ง ให้บริการประชาชนสะสมจำนวน 107,323 คน ให้บริการฉีดวัคซีนแล้ว 76,756 คน แบ่งเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ 43,916 คน ผู้มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค 32,673 คน และหญิงตั้งครรภ์ 167 คน ให้บริการตรวจ Antigen Test Kit แก่ประชาชนแล้ว 22,377 คน ผลไม่พบเชื้อ 19,671 คน และผลพบเชื้อ 2,706 คน ซึ่งได้นำส่งโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษา 55 คน นำส่งศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ (CI) 42 คน และให้การดูแลแยกกักตัวที่บ้าน (HI) 2,609 คน พร้อมดำเนินการมอบชุดกักตัว HI ยาฟ้าทะลายโจร ยาลดไข้ ยาแก้ไอ ยาละลายเสมหะ และยา Favipiravir ภายใต้ดุลยพินิจของทีมแพทย์ ดำเนินการกักกันผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่บ้าน (HQ) 5,113 คน โดยมอบชุด HQ แก่ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ทีม Bangkok CCRT จะลงพื้นที่ชุมชนที่ยังตกค้างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 20 ส.ค. 64 อีกเกือบ 500 ชุมชน
“สุทธิพงษ์ จุลเจริญ” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ขึ้นเป็นปลัดมท. โยกผู้ว่าลำปาง มาเป็นผู้ว่าฯปทุมฯ
นายกฯ ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทย อนุมัติแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในกระทรวงมหาดไทย 28 ตำแหน่ง เช่น
1.นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ พ้นจากตำแหน่งอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย
2.นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ไปดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย
3.นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ พ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษาด้านกฎหมาย และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
4.นายสมคิด จันทมฤก พ้นจากตำแหน่งรองปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน
5.นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่
6.นายรังสรรค์ ตันเจริญ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท
7.นายไกรสร กองฉลาด พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ
8.นายภาสกร บุญญลักษม์ พ้นจากตำแหน่งตรวจราชการกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย
9.นายประจญ ปรัชญ์สกุล พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่
10.นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดตราด
11.นายชาธิป รุจนเสรี พ้นจากตำแหน่งตรวจราชการกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม
12.นายวิเชียร จันทรโณทัย พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา
13.นายชยันต์ ศิริมาศ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครสรวรรค์
14.นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี
15.นายเสถียร เจริญเหรียญ พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
16.นายนิพนธ์ บุญหลวง พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี
17.นายวีระชัย นาคมาศ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดอยุธยา
18.นายไพบูลย์ ณะบุตรจอม พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร
19.นายเฉลิมพล มั่งคั่ง พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร
20.นายภิรมย์ นิลทยา พ้นจากตำแหน่งตรวจราชการกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา
21.นายภูสิต สมจิตต์ พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด
22.นายสิธิชัย จินดาหลวง พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง
23.นางจุรีรัตน์ เทพอาสน์ พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร
24.นายเจษฎา จิตรัตน์ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา
25.นายปริญญา โพธิสัตย์ พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว
26.นายชัยชาญ สิทธิวิรัชธรรม พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี
27.นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย
28.นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดตาก และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี
ติดเชื้อพุ่ง!รัฐทางตอนใต้ของสหรัฐฯ รัฐหลุยเซียนา ขาดบุคลากรทางการแพทย์ 6,000 คน
รอยเตอร์ รายงานว่า หลายรัฐทางตอนใต้ของสหรัฐฯ เช่น รัฐฟลอริดาและรัฐหลุยเซียนา มีผู้ป่วยที่ต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มสูงมาก เนื่องจาก การแพร่ระบาดอย่างหนักของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาในรัฐทางภาคใต้ของประเทศ โดยเฉพาะรัฐฟลอริดา คนไข้ใหม่กว่า 10,000 คน เข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเมื่อวันอาทิตย์
ส่วนที่รัฐหลุยเซียนา ตัวเลขผู้ป่วยที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลมีแนวโน้มว่าอาจจะสูงกว่าสถิติเดิม ซึ่งบันทึกไว้เมื่อวันที่ 6 มกราคม คือ 6,882 คน ภายใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า ทำให้นายจอห์น เบล เอ็ดเวิร์ด ผู้ว่าการรัฐหลุยเซียนา ออกคำสั่งให้ประชาชนกลับมาสวมหน้ากากอนามัยกันอีกครั้งเมื่ออยู่ในอาคารสาธารณะ เพื่อลดการแพร่ระบาด
พญ.แคเธอรีน โอนีล หัวหน้าแพทย์ประจำโรงพยาบาลเลค รีเจียนนัล เมดิคอลเซ็นเตอร์ในเมืองบาตัน โรก รัฐหลุยเซียนา เตือนว่า พื้นที่ตอนใต้ของสหรัฐฯอาจจะเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างรุนแรง ระบุว่า ในอนาคต โรงพยาบาลต่างๆอาจจะประสบปัญหาขาดแคลนเตียงคนไข้ อีกทั้งบุคลากรทางการแพทย์ส่วนหนึ่งติดโรคโควิด-19 ทำให้รัฐหลุยเซียนาขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ราว 6,000 คน พญ.โอนีล แนะนำประชาชนไปรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพื่อลดจำนวนคนไข้ที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล
ส่วนท้องที่อื่นๆเช่น รัฐแคลิฟอร์เนีย รัฐบาลท้องถิ่นใน 8 เทศมณฑลในแถบอ่าวซานฟรานซิสโก ออกคำสั่งให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในอาคารสาธารณะ เริ่มตั้งแต่หลังเที่ยงคืนของวันนี้ (3 สิงหาคม 2564) นายแอนดรูว์ คัวโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กและนายฟิล เมอร์ฟี ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซี มีคำสั่งให้คนงานในภาคการขนส่ง เรือนจำ โรงพยาบาลและคนงานประจำสถานดูแลผู้สูงอายุจะต้องรับวัคซีน หรือแสดงหลักฐานผลตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ พร้อมขอให้ผู้ประกอบธุรกิจบาร์ ร้านอาหารและธุรกิจเอกชนอื่นๆออกระเบียบให้ลูกค้ารับวัคซีนก่อนเข้าไปใช้บริการในร้าน
ขณะที่นายไมเคิล แฮนค็อก นายกเทศมนตรีเมืองเดนเวอร์ ระบุว่า รัฐบาลท้องถิ่นจะพิจารณาออกมาตรการบังคับให้คนงานในหน่วยงานรัฐบาลท้องถิ่นกว่า 11,000 คนไปรับวัคซีนเช่นกัน มาตรการต่างๆเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าบรรดาผู้กำหนดนโยบายของรัฐบาลท้องถิ่นของสหรัฐฯพยายามจะหาทางส่งเสริมให้ประชาชนไปรับวัคซีนมากขึ้น หลังเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาระบาดอย่างรวดเร็วทั่วประเทศ
เกาหลีใต้ พบผู้ติดเชื้อโควิด "เดลตา พลัส" ครั้งแรก 2 รายวันนี้
สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคแห่งเกาหลีใต้ (KDCA) เปิดเผยว่า เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา พลัส (Delta Plus) เป็นครั้งแรกจำนวน 2 คนในวันนี้
เชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา พลัส เป็นสายพันธุ์ย่อยของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่พบครั้งแรกในประเทศอินเดีย และมีการกลายพันธุ์ของผิวโปรตีนส่วนหนาม (spike protein) ที่เรียกว่า K417N ซึ่งพบได้ในสายพันธุ์เบตา ด้วยเช่นเดียวกัน
ในปัจจุบัน รายงานการพบผู้ติดเชื้อเดลตา พลัส อยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ และพบเพียงบางประเทศเท่านั้น เช่น อังกฤษ โปรตุเกส และอินเดีย
KDCA ระบุว่า ผู้ติดเชื้อคนแรก เป็นชายเกาหลีใต้วัย 40 ปี ซึ่งไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ และต่อมาเมื่อตรวจเชื้อของสมาชิกในครอบครัวก็พบว่ามี 1 คน ที่ผลตรวจโควิด-19 ออกมาเป็นบวก โดย KDCA ยังไม่ได้ยืนยันแน่ชัดว่าสมาชิกในครอบครัวคนดังกล่าวติดเชื้อเดลตา พลัส หรือไม่
ส่วนคนที่ 2 ที่พบเชื้อเดลตา พลัส เป็นนักท่องเที่ยวจากต่างชาติ
หน่วยงานด้านสุขภาพ กล่าวว่า วัคซีนหลักหลายตัวสามารถต้านการติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาได้ แต่เป็นที่น่าวิตกกังวลว่าสายพันธุ์ใหม่ ๆ อาจสามารถหลบเลี่ยงวัคซีนได้อีก นักวิทยาศาสตร์บางคน กล่าวว่า สายพันธุ์เดลตา พลัส อาจแพร่เชื้อได้มากกว่าเดิม โดยกำลังมีการศึกษาในอินเดียและทั่วโลกเพื่อทดสอบประสิทธิภาพของวัคซีนต่อเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ชนิดนี้
เกาหลีใต้ รายงานว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 1,202 คน รวมยอดผู้ติดเชื้อทั้งหมด 202,203 คน และเสียชีวิต 2,104 คน ขณะที่มีประชากรร้อยละ 39 ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส ส่วนผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วอยู่ที่ร้อยละ 14.1 ทั้งนี้ เกาหลีใต้ ตั้งเป้าหมายที่จะฉีดวัคซีนให้กับประชาชนอย่างน้อย 36,000,000 คนภายในสิ้นเดือนก.ย.64